อันดับที่ 1 TNR ดันยอดขายโต 30% หลังทุ่ม 471 ลบ. ซื้อถุงยางแบรนด์ PLAYBOY ลุยเจาะ 188 ปท.ทั่วโลก
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR โดยนายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายปี 2561 เติบโต 30% จากปี 2560 มียอดขายรวม 1,294 ล้านบาท โดยมีแผนรุกขยายธุรกิจ หลังอนุมัติเข้าซื้อสิทธิ์การขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นแบรนด์ PLAYBOY ต่อจาก United Medical Devices หรือ UMD ซึ่งจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 470.98 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทคาดกำลังการผลิตปี 2561 เติบโตแตะ 80% จากปีก่อนที่ 65% หลังได้แบรนด์ PLAYBOY เข้ามาเพิ่ม ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2561 คาดเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน หลังกำลังซื้อฟื้น หนุนออเดอร์ OEM เพิ่ม
อันดับที่ 2 PJW ลั่นปีนี้รายได้โตทะลุ 8% หลังผุดโมเดลใหม่ ลุยเจาะตลาดจีนเพิ่ม
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก หรือ PJW โดยนายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8% เนื่องจากบริษัทมีแผนจะการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (new model) ในงานชิ้นส่วนยานยนต์ และโรงพ่นสี ซึ่งยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และการวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์สินค้าอีกหลายรายการ คาดว่าจะมีขึ้นแน่ช่วงกลางปีนี้ สำหรับธุรกิจในประเทศจีน เริ่มมีขนาดธุรกิจที่ใหญ่เพียงพอ เมื่อรักษาต้นทุนต่อยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ผลประกอบการโดยรวมของจีนจะดีขึ้นไปด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าในปี 2562 จะรับรู้ยอดขายใหม่มูลค่าประมาณ 60 ล้านหยวนหรือ 300 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตขึ้น 1 เท่าตัวจากที่ประเมินว่าจะทำได้ในปีนี้
อันดับที่ 3 ROBINS หุ้น Laggard พีอีต่ำกว่าคู่แข่ง-รับบรรยากาศจับจ่ายคึกคักกูรูให้เป้า 86 บาท
มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ROBINS หรือ บมจ.โรบินสัน โดยคาดว่ายอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) จะกลับมาเติบโต 2 % ในไตรมาส 1/2561 จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/2559 และบรรยากาศการจับซื้อสินค้าที่คึกคักมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนการเปิดตัวกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่แบรนด์ ของ ROBINS น่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายไตรมาสไตรมาส1/2561 ขณะที่พื้นที่ให้เช่าที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ใหม่สองแห่งและกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงน่าจะช่วยผลักดันให้กำไรเติบโต 13 % ในปีนี้ อิงตามประมาณการของเรา จึงยังแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายหุ้นละ 86 บาท
อันดับที่ 4 KTC แรงส์ไม่หยุด กูรูย้ำราคาเป้าหมายที่ 350 บ.
มิติหุ้น-จากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.) หยวนต้า(ประเทศไทย)ซึ่งระบุว่า ได้ปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ซื้อเก็งกำไร” บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC พร้อมย้ำราคาเป้าหมายที่ 350 บาท/ หุ้น เนื่องจาก Upside เริ่มจำกัดภายหลังราคาหุ้นปรับขึ้นราว 20 % นับตั้งแต่ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการณ์ราคาเป้าหมายใหม่ดังกล่าวไปเมื่อ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 จึงเหลือ Upside เพียง 11 % ย่อมสะท้อนความคาดหวังเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ โดยคาดว่าสินเชื่อปี 2561 จะขยายตัวได้ถึง 10 % จากช่วงเดียวกันขเองปีก่อน ที่เติบโตเพียง 7 % ด้วยปัจจัยสนับสนุน
อันดับที่ 5 ตลท.เผยผลสำรวจ CEO ช่วงครึ่งปีแรกมองเศรษฐกิจไทยโต 3-4%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยนางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน เปิดเผยว่า ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO Survey) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2561 มีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 3-4% โดยมีปัจจัยด้านการท่องเที่ยว นโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ รวมไปถึงเสถียรภาพของการเมืองในประเทศ เป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ขณะเดียวกันแนวโน้มการดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่คาดว่าต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากผลของประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราค่าแรงขั้นต่ำ เช่นเดียวกับราคาวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และสภาพคล่องของบริษัท
www.mitihoon.com