หลังจากกระทรวงพลังงาน เปลี่ยนเสนาบดีใหม่ จาก “พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์” เป็น “นายศิริ จิระพงษ์พันธ์” มีหลายนโยบายที่เปลี่ยนแปลง ชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ และสร้างความผิดหวังให้แก่วงการพลังงานเป็นอย่างมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการคาดหวังกันว่า รัฐมนตรีว่าการฯ คนใหม่ จะเข้ามาสานต่อและเดินหน้านโยบายด้านพลังงานแบบฉลุย เพราะเป็นลูกหม้อเก่าในสายงานนี้
โดยเฉพาะล่าสุด แนวคิดที่จะ “ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน” เขย่าขวัญนักลงทุนระลอกใหญ่
โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เข้าข่ายได้รับผลกระทบ ได้แก่ โรงไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์ม โรงไฟฟ้าจากพลังงานลม โรงไฟฟ้าจากชีวมวล ทั้งในรูปแบบโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) และโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก(VSPP) รวมทั้งโรงไฟฟ้าขยะ
“ปัจจุบัน ประเทศไทย ไม่ได้ขาดแคลนไฟฟ้า และมีไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการใช้ใน 5 ปีหน้า จึงไม่จำเป็นต้องเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เป็นโครงการใหม่ๆ” …โอ้โห ท่านรัฐมนตรีเฉียบขาดมาก
โดยกระทรวงพลังงาน จะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กบง. ในวันที่ 20 เม.ย.2561 นี้
แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเจอวาทะเข้มของท่านรัฐมนตรีเข้าไป หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า โดนเทออกมาอย่างหนัก เรียกว่า โดนทุบแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่
สาเหตุเพราะเกิดความตื่นตระหนกของนักลงทุน ที่ยังจับใจความไม่ได้ชัด แต่เลือกที่จะปิดความเสี่ยง ด้วยการเทหุ้นออกมาก่อน แต่ที่ต้องโทษอย่างมาก คือ นโยบายภาครัฐที่ไม่อยู่กะร่องกับรอยมากกว่า
อย่างเช่นหุ้น BGRIM, GULF, SUPER, EA, BCPG เป็นต้น ถูกเทขายออกมาอย่างหนัก 5-6 วันติดต่อกัน ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลังจากผู้บริหารแต่ละค่ายต่างออกมายืนยันว่า “ไม่ได้รับผลกระทบ” หากภาครัฐจะเอาจริงตามที่กระทรวงพลังงานจะเสนอ กบง.
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่กำลังเป็นที่หวาดผวาไปทั่วโลก ขออย่าให้รัฐบาลซ้ำเติมการลงทุนด้วยนโยบายที่ไม่มีความชัดเจนเลยครับ…นักลงทุนจะไม่เชื่อมั่น
“บิ๊กเซ็ต”
