ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU โดยนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดแนวโน้มธุรกิจในปี 2561 เติบโตดีขึ้น หลังราคาปลาทูน่าจะเริ่มปรับตัวลดลง โดยคาดราคาปลาทูน่าจะอยู่ที่ระดับ 1500-1800 เหรียญต่อตัน เทียบกับปี 2560 ที่ 1,800-2,300 เหรียญ ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศและการห้ามจับปลา FADBAN-Fish Aggregate Devices ในเดือน กค.-ตค. 2560 แต่หลังจากพ้นช่วงดังกล่าวแล้ว สามารถดำเนินการจับปลาได้มากขึ้น และสภาพอากาศกลับมาเอื้ออำนวย รวมถึงมีกองเรือหาปลาเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้ราคาปลาทูน่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงในปีนี้
ทั้งนี้ คาดแนวโน้มผลกำไรสุทธิ TU ไตรมาส 1/61 ที่ 905 ล้านบาท ลดลง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนราคาปลาทูน่าอยู่ที่ 2,033 เหรียญต่อตัน ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มาจากการสต็อกราคาสูงในช่วงไตรมาส 4/60 ขณะเดียวกันยังประสบปัญหาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็ง ทำให้รับรู้รายได้ลดลง ในส่วนของกิจการ Red Lobster ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวในสหรัฐฯ แต่ธุรกิจของ Avanti Fee ในอินเดีย ยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง
ดังนั้น แนะนำ หาจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ประเมินมูลค่า โดยอิงวิธี PE ปี 2561 ที่ 17 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ 22 บาท
www.mitihoon.com