เปิดตลาดวันทำการแรกหลังสงกรานต์มาหุ้นไทยและเอเชียมีการเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ จากความรุนแรงในตะวันออกกลางหลังสหรัฐฯโจมตีซีเรียทำให้เกิดความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-ซีเรีย-รัสเซีย ทำให้ตลาดมีความผันผวนไปตามสถานการณ์นี้ และเป็นปัจจัยให้ต้องติดตามกันในสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นสัปดาห์ก่อนฟื้นตัวขึ้น หลังนักลงทุนซื้อหุ้นธนาคารซึ่งปรับตัวลงไปมาก ส่วนในสัปดาห์นี้ (17-20 เม.ย.) KTBST ประเมินว่า แม้จะมีเรื่องสหรัฐฯโจมตีซีเรีย แต่มีมุมมองในทางบวกจากราคาน้ำมันที่อาจสูงขึ้นต่อ รวมทั้งแนวโน้มในทางบวกจากเรื่องการเจรจาสงครามการค้าของสหรัฐฯ-จีน โดยรวมจึงมองว่าหุ้นมีโอกาสเดินในต่อในสัปดาห์นี้ คาดกรอบดัชนีเคลื่อวไหวอยู่ที่ 1,740-1,780 จุด นั่นทำให้การลงทุนในสัปดาห์นี้มี Upside ของตลาดไม่มากและยังเน้นอยู่ในหุ้นบางกลุ่ม อย่างธนาคาร-น้ำมัน-ปิโตรเคมี-ส่งออก หุ้นที่น่าสนใจ อย่าง KBANK , BBL, TMB , PTTEP, IVL , KCE และ WICE หุ้นที่มี
อย่างไรก็ตามประเด็นในเรื่องสงครามการค้านั้นยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะหากมีการตอบโต้จากนานาชาติอาจเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงได้ KTBST ได้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์เรื่องสงครามการค้าล่าสุดว่า ทิศทางที่น่าจะมากที่สุด (60%) คือ สหรัฐฯ กับ จีนมีการเจรจาควบคู่ไปกับการพิจารณาเอามาตรการด้านภาษีมาใช้ โดยสหรัฐฯและจีนจะปรับขึ้นภาษีตามวงเงินที่ประกาศไว้หรือน้อยกว่าจำนวนนี้ ซึ่งนั่นจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจะอยู่ในวงจำกัด เพราะตลาดรับรู้มาระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนในตลาดทั่วโลกมีความกังวลว่าจะบานปลายทำให้ส่งผลให้ดัชนี Bloomberg World Index ลดลง 2% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง 4.2% นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมในวันที่ 1 มี.ค. 18 เป็นต้นมา ดังนั้นหากเกิดเจรจาในลักษณะดังกล่าวนี้ถือว่าจะเป็นการลดความกังวลลงไปได้มากและดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสดีดตัวสูงขึ้นโดยมีเป้าหมายที่ 1,857 จุด
ดังนั้นในการลงทุนหุ้นกลุ่มที่ KTBST แนะนำหากสถานการณ์เป็นไปตามที่ประเมินไว้ดังกล่าว กลุ่มหลักคือ กลุ่มอิงส่งออกอย่างเช่น KCE, HANA, DELTA, WICE, JWD, RCL , PSL และ TU ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นที่ราคาปรับตัวลงมาช่วงก่อนหน้านี้ คือ กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี PTTEP, IRPC, IVL และหุ้นกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, TMB)
ชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST)
