ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โซลาร์ตรอน หรือ SOLAR โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ เปิดเผยว่า คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 1,196 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังคาดหวังว่าจะทำผลกำไรออกมาดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุนราว 189 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีงานติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ (EPC) ในมือประมาณ 360 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในรูปแบบติดตั้งบนหลังคาเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง เช่น โครงการโซลาร์เซลล์เพื่อความมั่นคงของกระทรวงพลังงาน โครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาของหน่วยงานภาครัฐเพื่อลดใช้พลังงงาน รวมถึงสับสนุนการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง และโครงการโซลาร์สูบน้ำในระบบบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ซึ่งมีงานประมูลในระดับหลัก 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
ประกอบกับ งานติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังงานของห้างสรรพสินค้าซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตได้ในปีนี้ นอกจากนี้แล้วยังมีโอกาสได้งานโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร เฟส2
ขณะเดียวกัน ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ เนื่องจากได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยได้ติดตั้งเครื่องจักรผลิตแผ่นเซลล์โซลาร์แล้วเสร็จในไตรมาส 4/2560 รองรับการผลิต 200 เมกะวัตต์ต่อปี ซึ่งปัจจุบันสามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตแล้ว ปัจจุบันมีกำลังการผลิตในระดับ 180 เมกะวัตต์ รวมถึงรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรเฟสแรก 9 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับ ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต 10 เมกะวัตต์
สำหรับการชะลอรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนนั้น มองว่าจะเป็นผลบวกกับบริษัทมากกว่า เนื่องจากภาคเอกชนจะหันมาลงทุนผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้น โดยเฉพาะโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งจะทำให้ SOLAR มีโอกาสได้รับงาน EPC มากขึ้นในอนาคต ขณะที่สัดส่วนรายได้ในปัจจุบันมาจากงาน EPC รวมงานบริหารจัดการพลังงานผลิตแผงยังคงมีสัดส่วนที่ 80% ส่วนการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 20%
www.mitihoon.com