ซุปเปอร์เทรดเดอร์จับมือเอเชียซอฟท์ออกแพลตฟอร์ม Social Trading สมบูรณ์แบบรายแรกในประเทศไทย พร้อมระดมทุน ICO เร็วๆนี้

210

มิติหุ้น-ซุปเปอร์เทรดเดอร์ เซ็นเอ็มโอยู กับสกายเน็ต ซิสเต็มส์ ในเครือเอเชียซอฟท์ ออกแพลตฟอร์ม Social Trading ที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านเทคโนโลยีและบุคลากรรายแรกในประเทศไทย เฟสแรกพร้อมเปิดทดลองใช้กับระบบ AI Trade กับตลาดหุ้นไทย และสินค้าในตลาด Crypto Currency ภายในเดือนพฤษภาคมนี้  มั่นใจจะเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งในตลาด พร้อมเตรียมระดมทุนขยายแพลตฟอร์มไปยังต่างประเทศด้วยวิธีการ ICO เร็วๆ นี้

นายกระทรวง จารุศิระ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ โฮลดิ้ง กล่าวว่ากลุ่มบริษัทได้เซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัท สกายเน็ต ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ Skynet ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในการออกแพลตฟอร์ม Social Trading ที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านเทคโนโลยีและบุคลากรเป็นรายแรกในประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าจะทดสอบผ่านระบบเทรดอัตโนมัติ (AI Trade) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในเดือนพฤษภาคม สำหรับระบบ  Social Trading เพื่อรองรับตลาด Crypto Exchange ได้ดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ซุปเปอร์เทรดเดอร์ เป็นเจ้าของโครงการแข่งขันเทรดหุ้น ซุปเปอร์เทรดเดอร์ไทยแลนด์ ทั้งสิ้นแล้วจำนวน 4 ซีซั่น มีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 5,000 คนตลอดสี่ปีและได้สร้างโค้ชด้านการเทรดหุ้นขึ้นมาประดับวงการมากกว่า 100 คน ซึ่งจะเป็นทรัพยากรบุคคลสำคัญที่จะทำให้แพลตฟอร์ม Social Trading ประสบความสำเร็จได้

“Social Trading เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศมาพักใหญ่แล้วและเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเริ่มจากตลาด FOREX มาก่อน ล่าสุด Ayondo ซึ่งเป็นฟินเทคสัญชาติสิงคโปร์ก็สามารถเข้าระดมทุนไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ได้เป็นรายแรก ทำให้เรามั่นใจว่า Social Trading จะเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างแน่นอน”

นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ของเอเชียซอฟท์เข้าสู่อุตสาหกรรมด้านฟินเทค ซึ่งแพลตฟอร์ม Social Trading นี้ เอเชียซอฟท์และสกายเน็ต ได้ร่วมกันพัฒนามาก่อนหน้าเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว โดยมองเห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจที่เป็นไปได้สูงมากเนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีปริมาณการเทรดต่อวันเฉลี่ยสูงถึง 50,000-70,000 ล้านบาท และหากนำระบบ Social Trading เข้ามาใช้ จะทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับทุกคน เนื่องจากสามารถเลือกติดตามกูรูทั้งที่เป็นบุคคลหรือจะเป็นระบบ AI ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประวัติย้อนหลังของผลตอบแทนจากการเทรดที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ จึงเชื่อว่า การเกิดขึ้นของ Social Trading จะช่วยสร้างนักลงทุนหน้าใหม่ให้เพิ่มมากขึ้นและจะเป็นทางเลือกหนึ่งของเครื่องมือการลงทุนให้กับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาโดย Social Trading ของ Skynet ถือเป็นรายแรกของไทยที่รองรับการเทรดทั้งในตลาดหุ้นและตลาด Crypto ซึ่งพร้อมใช้งานได้จริง และมีแผนขยายสู่ตลาด global market ในอนาคต”

“จากประสบการณ์ที่เอเชียซอฟท์มีความเชื่ยวชาญในระบบ IT ด้วยการเป็นผู้ให้บริการ Social Gaming Platform ที่ต้องรองรับ User เป็นจำนวนมากในภูมิภาค SEA และประสบการณ์ในการพัฒนาเกมที่ต้องใช้เทคโนโลยีของ AI เป็นส่วนหนึ่ง ผนวกกับ ซุปเปอร์เทรดเดอร์ ที่มีคอมมูนิตี้ของนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในไทย เราเชื่อมั่นว่าจะทำให้เราเป็นผู้นำด้าน Social Trading Platform อันดับหนึ่งในไทยได้อย่างแน่นอน และเราจะทำให้การเทรดเป็นเรื่องสนุกและง่ายเหมือนการเล่นเกม นอกจากนั้นยังได้เตรียมแผนที่จะระดมทุนด้วยวิธีการ ICO (Initial Coin Offering) จุดประสงค์เพื่อเป็น Utility Token สำหรับใช้ติดตามเทรดเดอร์ผู้เป็น The Master และรองรับการขยายแพลตฟอร์มไปยังต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มเปิด Pre-Sale ได้เร็วๆนี้” นายปราโมทย์กล่าวเสริม