อันดับที่ 1 MGT ฉายแววเด่น ทุกธุรกิจโตสวย วงในแนะนำ “ซื้อ” เป้า 3.12 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.โกลเบล็ก ประเมินภาพธุรกิจ บมจ. เมกาเคม (ประเทศไทย) หรือ MGT พบว่า ปี 61 คาดรายได้รวมจะหนุน โดย 1.การจ้างพนักงานขายที่เป็นวิศวฯ เคมีมาเพิ่มอีก 5 คน (จาก 7 คน สิ้นปี 60) หลังจากการก่อสร้าง lab ใหม่ (ราว 3Q60) และจะตามมาด้วยทีมวิจัยอีก 2 ราย เพื่อมาร่วม R&D กับลูกค้ารายใหม่ รุกตลาดอาหารและยาซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ (สัดส่วนรายได้เพียง 2.5% ในปี 60) 2. การเติบโตของลูกค้าเดิมที่ Outperform GDP ปี 61 (คาดโดย ธปท. ที่ 4.1%) โดยรวมคาดรายได้เติบโต 6.6% เทียบปีก่อนมาอยู่ที่ 618 ล้านบาท ส่วนบริษัทย่อย “VTL” คาดทยอยขาดทุนลดลงตลอดปีสู่จุดคุ้มทุนสิ้นปีนี้ หลังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสู่ TV Shopping กว่า 2 – 3 ช่อง หนุนเพิ่ม Utilization Rate ที่เป็นปัญหาหลักได้ จึงคาดกำไรปี 61 อยู่ที่ 58.3 ล้านบาท เติบโต 23.2% เทียบปีก่อน โดยแนะนำ “ซื้อ” มีราคาเป้าหมาย 3.12 บาท
อันดับที่ 2 BBL กำไรไตรมาส1โต 8.4 % ตามคาด และผลกระทบค่าฟีน้อย กูรูยกเป็นหุ้น TOP pick แนะซื้อที่ 230 บาท/หุ้น
มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า จากที่ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส1/2561 ที่ 9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 6 % จากไตรมาส 4/2560 ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยคาดและตลาดคาดด้วยปัจจัยบวก ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส2/2561 คาดจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของสินเชื่อโดยเฉพาะภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ตามการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” และเลือก BBL เป็น Top pick ของกลุ่ม ด้วยราคาเปาหมายสิ้นปี 2561 ที่ 230 บาท/หุ้น โดยประเมินว่าปี 2561 กำไรเติบโต 7.2 % เด่นกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
อันดับที่ 3 กบง.มีมติปรับเกณฑ์คำนวณราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น กลุ่มเบนซิน-ดีเซล ส่งผลให้ราคาปรับลดลง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการพิจารณาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่น สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง ว่า ที่ประชุม กบง. ได้มีมติเห็นชอบใช้เกณฑ์ราคา Euro IV เป็นฐาน จากวิธีเดิมที่ใช้ Euro III เป็นฐาน เนื่องจากสามารถสะท้อนสภาวะการแข่งขันในตลาดสากลได้ใกล้เคียงตามความเป็นจริงได้มากกว่า ทั้งนี้ ประกอบกับการที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันนี้ (20 เม.ย.) ถึงมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่อนุมัติให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล และดีเซล ลง 15 สตางค์ต่อลิตร เป็นระยะเวลา 2 ปี จะส่งผลให้ราคาขายส่ง (ก่อนรวมค่าการตลาดและจัดจำหน่ายตามสถานีบริการ) สามารถลดลงได้ 60 – 80 สตางค์ต่อลิตร
อันดับที่ 4 IRPC เด่นสุดกลุ่มโรงกลั่น หลังชัดเจน กบง.ปรับสูตรราคาน้ำมันเชียร์ซื้อเป้า 8.60 บ.
มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โนมูระ พัฒนสิน มีมุมมอง Neutral ต่อคาดการณ์ หุ้น IRPC หรือ บมจ.ไออาร์พีซี จากคาดกำไรไตรมาส1/2561 ที่ประเมินไว้ที่ 2,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 45 % จากไตรมาส 4/2560 เนื่องจาก 1. ต้นทุน crude premium เพิ่มขึ้น 2.คาดกำไรสต๊อกน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 3. โครงการ PPE-PPC ยังไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มที่ คาดกำไรปกติที่ 2,448 ล้านบาททั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับลดลงมา สะท้อนกำไรไตรมาส1/2561 ที่อ่อนแอไปแล้ว จึงแนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ปีนี้ที่ 8.60 บาท/หุ้น
อันดับที่ 5 TVI เด่นซื้อประกันผ่านแอพฯเซียนถูกใจให้เป้า 4.8 บาท/หุ้น
มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” TVI หรือ บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ที่ราคาเป้าหมายปีนี้ 4.8 บาท/หุ้น อิง PBV 1.15 เท่า (ค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) ยังมี UPSIDE ที่ระดับสูงราว 42 % โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในปี 2561-2562 จะเติบโตเด่น จากปัจจัย การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำกำไร ทั้งจากด้านประกันภัย และผลตอบแทนจากเงินลงทุน นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยยังชื่นชอบนวัตกรรมประกันภัยใหม่ของ TVI ที่ได้เพิ่มช่องทางการซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนและเว็บไซต์ โดยมองว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ First mover และช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างมั่งคงในระยะยาว ซึ่งเราคาเป้าหมายเหมาะสมในปีนี้ยังมี UPSIDE ที่ระดับสูงราว 42 %