กฟผ. จ่อชงสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติภาคใต้ 700-1,000 MW

303

มิติหุ้น-กฟผ.จ่อชงสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติภาคใต้ 700-1,000 MW เสริมความต้องการใช้เพิ่มขึ้น ขณะการขยายสายส่งไฟฟ้าขนาด 500 เควี ขนอม-สราษฎร์ ใช้เงินลงทุน 6,000 ล้านบาท

นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ภาคใต้ของไทยจำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้เพิ่มขึ้น ซึ่งกฟผ.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 1 แห่งขนาดกำลังผลิตขนาด 700-1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งกำลังพิจารณาความเหมาะสมพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าที่จ.สุราษฎร์ธานี หรือขยายกำลังการผลิตที่โรงไฟฟ้าขนอม พร้อมนำเสนอต่อกระทรวงพลังงานพิจารณาเห็นชอบบรรจุในแผนพีดีพีฉบับใหม่

“แผนพัฒนาโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจะเป็นทางออกหนึ่งในการรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2563 และช่วงปี 2565-2566 ซึ่งหากไม่มีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นสิ่งที่ทำได้คือ การใช้มาตรการความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมประหยัดไฟฟ้าเท่านั้น”

ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 3.4% ทุกปี หรือราวปีละ 150 เมกะวัตต์ โดยในปี 2560 ความต้องการใช้ไฟสูงสุด(พีค)ของภาคใต้ อยู่ที่ 2,642 เมกะวัตต์ ขณะที่กำลังผลิตจากโรงไฟฟ้าหลัก 2 แห่ง คือโรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้าขนอน มีกำลังผลิตจริงอยู่ที่ 2,024 เมกะวัตต์ ส่งจากภาคกลางมาเสริมราว 460 เมกะวัตต์ ที่เหลือจากเขื่อน ชีวมวล ลม 140 เมกะวัตต์ และล่าสุดปีนี้ จังหวัดท่องเที่ยวหลักในภาคใต้ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อนในเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้เติบโตสูงราว 7-10% จากปีก่อน

ส่วนการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายสายส่งไฟฟ้าขนาด 500 เควี จากอ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ไปยังจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสายส่งไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ พบว่า จะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงราวกว่า 6,000 ล้านบาท และต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนาน คาดว่าจะเสร็จในช่วงปี 2570-2571 แต่หากใช้อำนาจตามมาตร 44 คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในช่วงปี 2566-2567 ซึ่งก็จะไม่ทันรองรับบริหารความเสี่ยงความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้

www.mitihoon.com