มิติหุ้น-LIT ลุ้นโปรเจ็กต์ใหญ่ การันตีกำไรนิวไฮยาว 3 ปี (61-63) เหตุบิ๊กโประเจ็กรัฐหนุน SME ขอสินเชื่อเพียบ ดันพอร์ตสินเชื่อพุ่ง 1.3 หมื่นล้านบาท ฟากโบรกแนะ “รีบสะสม” เข้าพอร์ต ชี้กำไรแรง 30% หนี้เน่าลดฮวบ ชี้เป้า 15.40 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ลีซ อิท หรือ LIT โดย “นายสมพล เอกธีรจิตต์” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า บริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 61-63 ) กำไรสุทธิจะทำนิวไฮต่อเนื่อง และรายได้เติบโต 20-30% ต่อปี เนื่องจากบิ๊กโปรเจ็กต์ภาครัฐจะหนุนให้ผู้ประกอบการ SME หันมาขอสินเชื่อเพื่อเข้าลงทุนมากขึ้น
โชว์พอร์ตโลน1.3หมื่นล.
โดยเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สินเชื่อทั้ง 6 กลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ทั้ง 1.Leasing, 2.HirePurchase,3.Factoring,4. Bid Bond,5. Project Backup Financing, 6. Trade Finance,7.L/C (Letter of Credit) โดยสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐคิดเป็นกว่า 70% ของสินเชื่อรวม โดยการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างความน่าสนใจ เมื่อย้ายเข้า SET ในปี 2563 จากปัจจุบันอยู่ mai
ส่วนในปี 2561 คาดกำไรนิวไฮเป็นปีที่ 5 ส่วนรายได้จะเติบโต 20% จากปี 2560 โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20 % จากปีก่อน ด้านพอร์ตสินเชื่อคงค้างปีนี้อยู่ที่ 2.69 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 2.24 พันล้านบาท คุม NPL ไม่เกิน 5 เท่า จากปีก่อนที่ 4.84 % เน้นปล่อยสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำ และคุม D/E ไม่เกิน 4 เท่า จาก 1.3 เท่า
ทั้งนี้มีโอกาสรับโครงการใหม่ๆ จากล่าสุดปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ EDS ฯลฯในท่าอากาศยาน จ.อุบลราชธานีและท่าอากาศยาน จ.สกลนคร รวม 228 ล้านบาท
กเชียร์“ซื้อ”เป้า15.40บ.
ด้าน บล.โกลเบล็ก คาดปี 2561 LIT จะมีกำไรสุทธิ 189 ล้านบาท โต 30% และรายได้ 590 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อน เพราะเชื่อว่าการที่รัฐเร่งเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ทำให้เห็นการเติบโตของสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ตามสัญญาเงินให้กู้ยืมในโครงการจัดหาสินค้าที่เติบโตสูงถึง 60% ในปี 2560 ทั้งนี้ยังมองเชิงบวกต่อความเสี่ยงทางการเงินที่ลดลงจากระดับ D/E ratio ที่ 3.2 เท่า เหลือ 1.3 เท่า ซึ่งเป็นผลจากการขยายฐานทุนในปี 2560 แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 15.40 บาท yield น่าสนใจที่ระดับ 4%
บล.เออีซี คาดปี 2561 กำไรสุทธิโต 30% เช่นกัน คาด SME ขอสินเชื่อมากขึ้น ส่วนแรงกดดันจาก NPL ที่สูงแตะ 4.8% ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่เป็น SME ที่มีลูกค้าเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่และภาครัฐฯ ทำให้คาดจะสามารถเก็บหนี้ได้ในที่สุดและช่วยให้ NPL มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ตามลำดับ ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 14.50 บาท
www.mitihoon.com