มิติหุ้น-นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP เปิดเผยภายหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 ได้รับทราบการดำเนินงานของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ในการเปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกชและเอราวัณว่า ปตท.สผ. ยินดีที่ภาครัฐเล็งเห็นถึงความสำคัญของความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซจากทั้ง 2 แหล่งที่จะหมดอายุสัมปทาน เนื่องจากทั้ง 2 แหล่งมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของประเทศไทย โดยมีปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติรวมกันคิดเป็นร้อยละ 60 ของปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติของประเทศ
อย่างไรก็ตามการประมูลในแหล่งบงกชนั้น บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลร่วมกับผู้ร่วมทุนรายเดิม (บริษัท โททาล อีแอนด์ พี ไทยแลนด์) เนื่องจากเป็นพันธมิตรในการลงทุนที่ดี สามารถใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่มีร่วมกันในการพัฒนาแหล่งบงกชได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับแหล่งเอราวัณ ปตท.สผ. มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจากเดิม โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ดำเนินการปัจจุบัน (เชฟรอน) และเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูลในกรณีที่ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้
ส่วนหลักเกณฑ์ TOR ที่ภาครัฐเตรียมจะออกประกาศเชิญชวนประมูลนั้น ปตท.สผ. ขอดูในรายละเอียดต่อไป
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.ไอร่า ได้ประเมินว่า คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส1/2561 มีแนวดน้มออกมาดีกว่าไตรมาส4/2560 พร้อมประเมินกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 31,827 ล้านบาท เทียบกับปี 2560 มีกำไรสุทธิ 20,579 ล้านบาท พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” PTTEP ราคาเป้าหมายหุ้นละ 130 บาท
www.mitihoon.com