SCC คงเป้ารายได้โต 5-6%

120

มิติหุ้น-SCC ยังคงเป้ารายได้5-6% แม้ค่าเงินบาทแข็งค่า ต้นทุนวัตถุดิบสูง ชี้ป้องกันความเสี่ยงไว้เกือบ 50% ปรับปรุงความสามารถในการขาย นำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาสิ้นค้าให้มีมูลค้าเพิ่มขึ้น ฐานการลงทุนต่างประเทศ คาดความต้องการใช้ปูนยังโตหนุนรายได้

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC โดยนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ยังคงเป้าหมายรายได้รวมของปี 2561 ไว้ที่ 5-6% แม้ในช่วงไตรมาส1/2561 จะได้ผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในระดับ 31บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแข็งค่าขึ้น 10% ที่อยู่ในระดับ 34-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และได้ผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นก็ตาม

เนื่องจากบริษัทได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นไว้เกือบ 50% ของมูลค่าการส่งออกที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ประกอบกับได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียเพิ่มขึ้นโดยปัจจุบันนั้นมีสินทรัพย์จากการลงทุนในอาเซียเกือบ 30% ของสินทรัพย์ทั้งหมด และจะขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียอย่างต่อเนื่องทั้งในการซื้อกิจการและลงทุนใหม่ โดยได้ศึกษาการลงทุนในประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย เมียมา โดยจะเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจแพคเกจจิ้ง และวัสดุก่อสร้างเป็นหลักรองรับความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้น ขณะแผนการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังคงไม่ได้ข้อสรุปในปีนี้

นอกจากนี้ก็พยายามลงทุนด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้าให้มีมูลค้าเพิ่มขึ้นรองรับความเสี่ยงค่าเงินบาทแข็งค่าและผลักดันให้รายได้เติบโตได้ตามเป้าหมาย  ขณะเดียวกันแนวโน้มความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศคาดว่าจะยังคงเติบโตได้ประมาณ 2-3% ตามการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ยังคงเติบโตในทิศทางที่ดี ขณะที่สเปรด HDPE-Naphtha ในปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยในระดับ 798 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยหนุนรายได้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนในโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนามคาดว่าจะสรุปแผนการก่อสร้างและจัดหาแหล่งเงินทุนได้กลางปี 2561 แล้วเริ่มก่อสร้างได้ไตรมาส3-4/2561 คาดว่าในปีนี้จะใช้เงินลงทุนสำหรับโครงการนี้ประมาณ 20,000 ล้านบาท จากงบลงทุนรวมของบริษัทในปีนี้ราว 60,000 ล้านบาท ส่วนการลงทุนโรงงานปิโตรเคมีแห่งที่2ในประเทศอินโดนีเซียคาดว่าจะสรุปการลงทุนได้สิ้นปีนี้

www.mitihoon.com