ทิศทางน้ำมัน และหุ้นไทย

247

ทิศทางน้ำมันในอนาคต ต้องพิจารณาความเสี่ยงเพิ่มอีก 2-3 เรื่อง

1.ข่าวสหรัฐโดย Donald Trump ประกาศจะล้มโครงการนิเคลียร์อิหร่านของ Obama 6 ประเทศ โดย Trump อ้างว่าได้ประโยชน์น้อยและสหรัฐเสียเปรียบ ต้องการเจรจาแก้ไขสัญญานี้ใหม่ แต่อิหร่านประกาศไม่ยอม Trump จึงขู่จะ Sanction เศรษฐกิจ การเงินอิหร่านรอบใหม่ ถ้าทำจริงจะทำให้ Supply น้ำมันอิหร่านสะดุด ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอีก

2.ข่าวลือเกิดการปฎิวัติ รัฐประหารขึ้นในซาอุดิอาระเบีย เมื่อ 21 เมษายน มีข่าวส่ง VDO และไลน์ผ่านสำนักข่าว AI Jazeera เผยแพร่ภาพยิงปืนสนั่นหน้าพระราชวังกษัตริย์ซากุ กลางกรุงริยาด เมืองหลอง ภาพเคลื่อนรถถังและภาพยิงกันอุตลุค แต่รัฐบาลซาอุฯ ออกแถลงการณ์ปฎิเสธ อ้างว่าทหารอารักขา เพียงยิงถล่มโดรนลึกลับ ที่บินมาเหนือพระราชวังเท่านั้น ไม่มีการปฎิวัติใดๆ ผลคือ กดดันให้ราคาน้ำมันดิบวิ่งขึ้นจาก 67 – 69.85$ ถ้าเกิดการปฎิวัติจริง ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นทะลุ 70$ ไปถึง 75-80$ ได้ เจ้าชายหลายคนไม่พอใจ รัชทายาท Mohammed Bin Salman ที่จับกุมตัวพวกเขาปี 2017 อ้างเรื่องมีการคอรัปชั่น และต้องปฎิรูปการเมือง ปฎิรูปสังคมซาอุ สรุปคือ ยังคุกรุ่นต่อไป

3.ทิศทางหุ้นไทยครึ่งปีหลัง 2561 ดัชนี SET ย่อตัวลงมาจาก High 1850 ลงมาถึง Low 1725 เมื่อ 5 เมษายน แล้วดีดกลับขึ้นมาถึง 1810 เมื่อ 23 เมษายน แต่ก็ไม่ผ่าน 1810 จึงเจอแรงขายลงมาใหม่ถึง 1770 แรงขายจากกองทุนฝรั่ง ยังออกมาต่อเนื่อง โดยอ้าง Bond Yield พันธบัตรสหรัฐ 10 ปี พุ่งทะลุ 3.0% และค่าเงิน US $ กลับแข็งขึ้นรอบใหม่ ต้องโอนเงินทุนกลับสหรัฐบางส่วน

ปัจจัยเสี่ยงตลาดหุ้นไทยยังมี

ทิศทางการเมือง จะมีการเลือกตั้ง ตามโรดแมปในเดือน ก.พ. 2562 หรือไม่? แนวโน้มการแก้ไข พรบ. เลือกตั้ง  พรบ. สส.สว ทำให้มีโอกาสจะต้องเลื่อนไปถึง พ.ค. -มิ.ย. 2562 ค่อนข้างมาก ประยุทธ์จะเข้าร่วมพรรค ประชารัฐ หรือไม่ ? พลังดูด สส.เก่า เหมือนพรรคสามัคคีธรรม ในยุคถนอม – ประกาศ เพื่อหวังกลับมาเป็น นายกรมด. ต่ออายุไปอีก 4 ปี จะเป็นจริงหรือไม่อย่างไร? การเลือนโรดแมปเลือกตั้ง เป็นผลลบต่อตลาดหุ้นไทย

ทิศทาง GDP, ส่งออก, EEC, และเศรษกิจชาวบ้าน GDP ไทยปี 2561 อาจไม่โตถึงเป้า 4.5% เพราะสถานการณ์ เศรษกิจชาวบ้าน ยังไม่ดีขึ้นเลย หนี้ภาคแรงงาน พุ่งสูงขึ้นตลอด เป็นหนี้สูงถึง 120,000 บาทต่อคน, NPL หนี้บัตรเครดิต, หนี้นอกระบบ, หนี้ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ยังคงสูงขึ้นตลอด ไม่ลดลงแต่อย่างใด ภาคส่งออกเดือนมีนาคม ได้เพิ่ม 7 % แต่ EEC ลงทุนจริงยังน้อยมากและช้ามาก มีเพียง Jack Ma จาก Alibaba มาสร้างภาพ ซึ่งนักวิชาการกลัวจะมาผูกขาดการค้าออนไลน์มากกว่า

บทสรุปปี 2561 อย่าเพิ่งมั่นใจว่า ตลาดหุ้นไทย จะยังวิ่งขึ้นต่อได้อีก 15-20% เพราะพิจารณาสถานการณ์รอบด้านแล้ว เห็นว่า สถานการณ์เศรษฐกิจการเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกา, ยุโรป, จีน, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, Asean, ตะวันออกกลางแอฟริกา ไม่ได้สดใสแวววาว อย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ ปีนี้มีปัจจัยเสี่ยง, ปัจจัยลบมากขึ้นกว่าที่คาด อีกทั้ง FED ก็จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง ตลอดทั้งปี และ Trump ออกนโยบายใหม่ๆ ที่ปะทะ, เผชิญหน้า, Surprise, Protectionism, Ultra Right ตลอดเวลาทำให้ Dow Jones ร่วงจาก High 26,750 ลงมาเหลือแค่ 24,200 จุด แนวรับอาจหล่นลงไปได้ถึง 23,000 หรือ 22,000 จุด ทองคำ Gold ก็ร่วงลงมาจาก High 1370 ลงมาเหลือ 1315$ ยังดีที่น้ำมันดิบ WTI วิ่งขึ้นมาจาก 55$ ขึ้นมาถึง 70$ ช่วยดึงหุ้นกลุ่มพลังงานขึ้นมาช่วยตลาดไว้ไม่ให้ลงลึกเหมือน Dow Jones

หุ้นไทยถ้าขึ้นมาถึง 1850 และ 1880 ได้ก็เก่งมากแล้ว

โดย พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ