อันดับที่ 1 MINT ไตรมาส 1 แนวโน้มสดใส ไฮซีซั่นหนุนธุรกิจโรงแรมโต แนะซื้อ เป้า 47 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/2561 ธุรกิจโรงแรมจะออกมาเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร ยอดขายของสาขาเดิมเติบโตลดลงเล็กน้อย แต่ในภาพรวมคาดว่ากำไรจะออกมาดีกว่าไตรมาส 4/2561
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินไตรมาส 1/2561 ของ MINT จะมีกำไรสุทธิ 1,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เทียบกับไตรมาส 4/2560 แต่ลดลง 3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ภาพรวมทั้งปี 2561 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 6,246 ล้านบาท พร้อมกับคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 47 บาท
อันดับที่ 2 AIT ย้ำเป้ารายได้ปีนี้แตะ 6 พันลบ. ตุน Backlog 3.08 พันลบ. ทยอยรับรู้ยาว กูรูแนะ “ทยอยซื้อ” เป้า 29.50 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี หรือ AIT โดย นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินว่าการลงทุนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (SI) ในปีนี้จะยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการของภาครัฐขนาดใหญ่ เช่น โครงการระบบกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา และโครงการระบบงานศูนย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สำหรับการรับรู้รายได้ของธุรกิจ SI หรือธุรกิจรับเหมาที่มีรายได้จากโครงการเป็นหลัก รายได้ที่รับรู้แต่ละไตรมาสอาจจะไม่บ่งบอกถึงแนวโน้มของรายได้ในไตรมาสต่อๆ มา ดังนั้น ควรจะมองภาพรวมรายได้ทั้งปีมากกว่า เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้และสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ตามเป้าที่ 10% หรือมีรายได้ 6,000 ล้านบาท ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เผยว่า จากงานในมือสิ้น 1Q61 ที่มีมากกว่า 2,000 ล้านบาท และคาดหวังการเข้าร่วมประมูลงานเพิ่มในช่วงที่เหลือของปียังเป็นปัจจัยหนุนต่อการดำเนินงานได้ แนะนำ “ทยอยซื้อ” จากการเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่ดี ราคาพื้นฐานเดิม 29.50 บาท
อันดับที่ 3 ATP30 ราคาเขียวพรึ่บ! หลังแจ้งงบโค้งแรก กำไรโตกว่า 446% ย้ำรายได้ทั้งปีแตะ 420 ลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหน ราคาหุ้น บมจ. เอทีพี 30 หรือ ATP 30 ช่วงเช้านี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 3.93% มูลค่าการซื้อขายกว่า 22 ล้านบาท
ด้าน นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ ATP30 เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/61 บริษัทมีรายได้ 100.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.55 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 79.29 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 27.18 % โดยมีกำไรสุทธิ 10.49 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.39% เพิ่มขึ้น 8.57 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.92 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.41% หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 446.35 % ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากไตรมาสแรกมีรถหมดค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นจำนวน 7 คัน และรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ 3 ราย จำนวนรถ 20 คัน อีกทั้งมีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ บริหารจัดการต้นทุนด้านต่างๆ ที่ดีขึ้น และการขยายธุรกิจในภูมิภาคเดิมทำให้ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 27.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 27.52% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 14.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 18.85%
อันดับที่ 4 BAFS ไตรมาส 1 ฉายแววเด่น คาดทั้งปีบริการน้ำมันโต 4% หนุนผลงานพุ่งนิวไฮ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือ BAFS ราคาหุ้นช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.36% โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมคาดว่า นักลงทุนเข้าเก็งกำไรไตรมาส 1/2561 ที่คาดว่าจะออกมาเติบโตดี ขณะที่ภาพรวมของปี 2561 บริษัทตั้งเป้าปริมาณการให้บริการน้ำมันผ่านท่อจะเติบโตเพิ่มขึ้นที่ระดับ 3% หรือ 5,930 ล้านลิตรจากปี 2560 มีปริมาณบริการน้ำมันผ่านท่อ 4,643 ล้านลิตร
อย่างไรก็ตาม ดูจากทิศทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในปีนี้มีแนวโมเติบโตเพิ่มขึ้น จึงมีโอกาสที่ปริมาณบริการน้ำมันผ่านท่อจะเติบโตมากกว่า4% หนุนภาพรวมรายได้เติบโตตามในระดับ 4% ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม (EBITDA) คาดว่าจะเติบโตในระดับ2, 000 ล้านบาท หนุนทำกำไรสุทธินิวไฮใหม่
อันดับที่ 5 SYNEX วิ่งแรง 6% วงในเชื่อรายได้ปีนี้มีแววแตะ 3.75 หมื่นลบ. แนะนำ “ซื้อ” เคาะเป้า 16.47 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด (11.00 น.) ราคาอยู่ที่ 15.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 6.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 94 ล้านบาท โดยทาง บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า จากการประเมิน SYNEX พบว่า บริษัทสามารถทำรายได้สูงกว่าที่บริษัทประเมินไว้มาโดยตลอด ซึ่งประเมินรายได้และอัตรากำไรแบบอนุรักษ์นิยมไว้ก่อน โดยรายได้คาดอยู่ที่ 37,500 ล้านบาทหรือเติบโต 15% ในปีนี้ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเราประเมินไว้ที่ 4.63% โดยยังคงประเมินว่าการเติบโตยังคงมาจากผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง หัวเหว่ยเติบโตเพิ่มขึ้น 100% ในขณะที่ DJI ที่เป็นแบรนด์โดรนเติบมากกว่า 200% นอกจากนี้บริษัทยังได้ประโยชน์จากการขยายฐานสินค้าและบริษัทกลายเป็นหนึ่งในช่องทางการจัดหน่ายที่สำคัญของสินค้า IT ดังนั้น จึงแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 16.47 บาท