มิติหุ้น – PTG กำไรโค้งแรกโตสวย 48% ผนึกพันธมิตร ตั้งบริษัทลูกรุกธุรกิจปั๊มน้ำมันหน้าคลัง ถือหุ้นในสัดส่วน 60% เดินหน้ารุกธุรกิจ Non-oil หนุนการทำกำไรเพิ่ม ดัน EBITDA ปีนี้โต 40-45% วางงบ 4-5 พันล้านบาท ขยายการลงทุน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG โดยนายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2561 มีมติอนุมัติให้บริษัท และ/หรือบริษัทย่อย เข้าร่วมลงทุนกับ บมจ.บริการน้ำมันเชื้อเพลิงกรุงเทพ หรือ BAFS
ผนึกพันธมิตรผุดปั๊มน้ำมันหน้าคลัง
โดยการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ คือ บริษัท บีพีทีจี จำกัด หรือ BPTG ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดย PTG จะถือหุ้น 60% และ BAFS ถือหุ้น 40% เพื่อประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน บริเวณด้านหน้าคลังน้ำมันพิจิตร คลังน้ำมันนครลำปาง และสถานีสูบถ่ายน้ำมันกำแพงเพชร ของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2561 มีกำไรสุทธิ 269 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88 ล้านบาท หรือ 48.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 181 ล้านบาท และมีรายได้รวม 24,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,856 ล้านบาท หรือ 18.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 20,896 ล้านบาท
การเติบโตของกำไรสุทธิและรายได้ มาจากปริมาณการขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 942 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รวมถึงการเติบโตของธุรกิจนอนออยล์ ทั้งในส่วนของการจำหน่ายแก๊ส LGP ที่เพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 43% นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจการให้บริการพื้นที่เชิงพาณิชย์ และธุรกิจอื่น ๆ ที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดันกำไรเพิ่ม – EBITDA โต 40-45%
ในส่วนของกำไรขั้นต้นต่อลิตรของธุรกิจน้ำมันในไตรมาสนี้ มีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการปรับราคาขายปลีกของอุตสาหกรรมน้ำมันที่สอดคล้องกับต้นทุนมากขึ้น และกำไรขั้นต้นจากธุรกิจนอนออยล์ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันให้เพิ่มขึ้น 20-25% จากปีก่อน และคงเป้า EBITDA เพิ่มขึ้น 40-45% จากปีก่อน รวมถึงตั้งงบลงทุนไว้ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนในการขยายและปรับปรุงธุรกิจหลัก 3,000-3,300 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500-700 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 500-1,000 ล้านบาท เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มขององค์กรในระยะยาว
www.mitihoon.com
