มิติหุ้น- ดุสิตธานีเผยรายได้ไตรมาสแรกปีนี้เติบโต 12.5% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 85% ระบุปัจจัยสำคัญมาจากรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่เพิ่มขึ้น และกำไรจากเงินลงทุนระยะยาวอื่น เผยช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ แผนการดำเนินงานถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งการลงทุนในธุรกิจอาหาร ด้วยการจัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด การเข้าลงทุนใน NRIP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารแห้งและเครื่องปรุงรสที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และการเปิดตัวโรงแรมแบรนด์ “อาศัย” (ASAI) เจาะกลุ่มลูกค้ามิลเลนเนียล ตอกย้ำเดินตามยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ทั้งสร้างสมดุลให้ธุรกิจ กระจายความเสี่ยงและสร้างการเติบโตของรายได้ พร้อมปักหมุดสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งทั้งกำลังคน กระบวนการทำงาน การนำเทคโนโลยีมาใช้ การจัดโครงสร้างทรัพย์สิน และการจัดโครงสร้างทางการเงิน
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก (มกราคมถึงมีนาคม) ปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาสแรกอยู่ที่ 230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.5% จากปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้ธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นและกำไรจากเงินลงทุนระยะยาวอื่น
“ภาพรวมของธุรกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ ถือว่าน่าพอใจ เนื่องจากการดำเนินงานต่างๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยเรามีพัฒนาการที่สำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจอาหาร ด้วยการจัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด เพื่อลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (NRIP)” นางศุภจีกล่าว
ทั้งนี้ NRIP ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารแห้งและเครื่องปรุงรส ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในฐานะของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาวของบริษัทฯ ในส่วนของการเพิ่มความหลากหลายในการทำธุรกิจ (Diversify) โดยกระจายการลงทุนไปในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งธุรกิจของ NRIP เป็นธุรกิจที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของมาตรฐาน อาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมของบริษัทฯ ทั่วโลกแล้ว ยังจะช่วยพัฒนาสินค้าพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ดุสิต เพื่อที่จะนำแบรนด์ดุสิตไปสู่ตลาดรีเทลทั้งในและต่างประเทศ เป็นการเพิ่มโอกาสในการเติบโตในอนาคตจากเทคโนโลยีด้านอาหารใหม่ๆ ตลอดจนต่อยอดธุรกิจการศึกษาของบริษัทฯ อีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวแบรนด์โรงแรมใหม่ “อาศัย” หรือ ASAI เพื่อตอบโจทย์การขยายตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) ซึ่งแสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เน้นการเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ประกอบกับที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพสูง และพื้นที่ส่วนกลางกว้างขวางเหมาะกับการสังสรรค์ การทำงานและการพักผ่อนหย่อนใจ โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดโรงแรมภายใต้แบรนด์ ASAI ประมาณ 10 แห่งต่อปีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีโรงแรมที่จะพัฒนาภายใต้แบรนด์ ASAI รวม 6 แห่งในประเทศไทย เมียนมาร์และฟิลิปปินส์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวย้ำว่า ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า บริษัทฯ ยังคงเข้มข้นกับการเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ 3 ประการ ได้แก่ การสร้างความสมดุลให้กับธุรกิจ การกระจายความเสี่ยง และการสร้างเป้าหมายในการเติบโต ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง 3 เป้าหมายจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากปราศจากรากฐานที่แข็งแกร่ง 5 ประการ ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การพัฒนากระบวนการทำงานในการทำงาน การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ การจัดโครงสร้างสินทรัพย์ให้มีศักยภาพ และการจัดโครงสร้างทางการเงิน ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวมาโดยตลอด และยังคงจะเดินหน้าต่อไป โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนให้กับดุสิตธานี