มิติหุ้น- AECS ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,793 จุด แนะนักลงทุนติดตามความคืบหน้าต่อการเจรจาแก้ปัญหาด้านการค้าร่วมระหว่างสหรัฐฯ – จีน หลังจากท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นของสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงสั้นแต่คาดกรอบการขึ้นยังจำกัด แนะนำให้“ เทรดดิ้ง หมุนรอบเร็ว” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว พร้อมแนะลงทุน BJC, CHG, RJH, MAJOR, JKN, PCSGH, AP ระบุงบไตรมาส1/2561 และส่อแววไตรมาส2/2561ไปได้สวย
ผู้สื่อข่าวมิติหุ้น-บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (14-18พ.ค.) แนะนำให้ติดตามความคืบหน้าของการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน โดยวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสข้อความในทวิตเตอร์ ว่ากำลังอยู่ระหว่างการร่วมมือกับนายสี จิ้น ผิง เพื่อหาทางช่วยให้ ZTE บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน กลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามเดิม หลังช่วงที่ผ่านต้องหยุดการดำเนินงานลง เพราะถูกสหรัฐฯ สั่งแบนเป็นเวลา 7 ปี ตอบโต้การที่บริษัทส่งสินค้าไปให้กับอิหร่านและเกาหลีเหนืออย่างผิดกฎหมาย ส่งผลให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ในสหรัฐฯ ไม่สามารถส่งชิ้นส่วนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตโทรศัพท์มือถือของ ZTE และกระทบต่อไลน์การผลิตของบริษัท ทั้งนี้จากท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นของสหรัฐฯ ทำให้เรามองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการเจรจาแก้ปัญหาด้านการค้าร่วมระหว่างสหรัฐฯ – จีน และจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นต่างประเทศให้ปรับตัวดีขึ้นในสัปดาห์นี้
ส่วนตลาดหุ้นไทยทางฝ่ายวิจัยมองว่า แม้ช่วงสั้นมีโอกาสฟื้นตัวแต่คาดกรอบการขึ้นยังจำกัด หลังยังขาดปัจจัยหนุนที่ชัดเจน และยังต้องจับตามการเคลื่อนย้ายของเงินทุนระหว่างประเทศ (Fund Flow) ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำจึงคงแนะนำให้ “Wait&See” จนกว่า SET จะกลับมายืนเหนือ 1,780 อีกครั้ง จึงเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกครั้งใหม่ ขณะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำให้ “ เทรดดิ้ง หมุนรอบเร็ว ” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ 1) หุ้นที่งบ 1Q/61 ดีกว่าคาดและช่วง 2Q/61 ยังมีโมเมนตัม กำไรโตต่อเนื่อง เช่น BJC, CHG, RJH, MAJOR, JKN, PCSGH, AP 2) หุ้นที่คาดงบ 1Q/61 ออกมาโตดี เช่น BCH, VIBHA, RS, SPALI, ERW, MINT, AOT 3) หุ้นกลุ่มนิคมฯ ที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย EEC เช่น WHA, AMATA, ROJNA
www.mitihoon.com