มิติหุ้น-บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP ประกาศผลงาน Q1/61 โตต่อเนื่อง รายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 422.39 ลบ. โต 12% กำไรสุทธิอยู่ที่ 15.71 ล้านบาท โต 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นโตขึ้นอยู่ที่ 13.82% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.72% ตอกย้ำโชห่วยไทยแข็งแกร่ง สาเหตุหลักมาจากการขยายสาขาได้ตามแผน และการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนแนวโน้มผลงาน Q2/61 เชื่อยังโตได้อีก หลังภาพรวมกำลังซื้อฟื้น ตั้งงบลงทุนปีนี้ 70 ลบ. ใช้ขยาย 5 สาขาใหม่ รวมทั้งรีโนเวทสาขาเดิม หนุนธนพิริยะสิ้นปี 61 มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 24 สาขา มั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้โตตามแผน 10-15% จากปีก่อน
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2561 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 422.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.96 ล้านบาท หรือ 11.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 377.43 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขยายสาขาของบริษัท โดยรายได้จากการขายสินค้าเก่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากจำนวนบิลซื้อที่เพิ่มขึ้น
ส่วนต้นทุนการขายและให้บริการอยู่ที่ 364.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 11.23% กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 58.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 16.37% และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13.82% เทียบกับงวดไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 13.29% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสาขา ทำให้รายได้จากการขายปลีกเพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่ และการได้รับการสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่าย สนับสนุนกำไรสุทธิอยู่ที่ 15.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.16 ล้านบาท หรือ 7.95% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 14.55 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.72% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3.85%
“ผลงานโค้งแรกของปีนี้ที่ออกมาถือว่าน่าพอใจ รายได้ของบริษัทฯ เติบโตขึ้นราว 11.9% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2560 และโต 2.17% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2560 จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยสาขาเมื่อสิ้นปี 2560 มีจำนวน 19 สาขา และตั้งเป้าปีนี้ขยายเพิ่มอีก 5 สาขา ขณะที่สาขาเดิมก็สร้างผลงานได้ดี มียอดขายเติบโตขึ้น มีการเติบโตของรายได้จากสาขาเดิม (SSS Growth) ในไตรมาส 1/2561 อยู่ที่ราว 1% เทียบกับไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับยอดซื้อต่อบิลและจำนวนบิลซื้อที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่าย และการบริหารจัดการภายในได้อย่างมีศักยภาพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ” นายธวัชชัย กล่าว
เภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการไตร 2/2561 จะเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับอานิสงส์ช่วงไฮซีซั่น มาตั้งแต่ต้นปี ได้แก่ เทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์ ,โครงการประชารัฐ และการรับรู้รายได้จาก 4 สาขา ที่เปิดใหม่ในปีก่อน จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว และการกระตุ้นจากภาครัฐบาลในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค
ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 70 ล้านบาท แบ่งเป็น 50 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาใหม่ 5 สาขา ซึ่งจะเน้นที่ จ.เชียงรายเป็นหลัก เพื่อสร้างแบรนด์ธนพิริยะให้แข็งแกร่ง โดยจะเริ่มทยอยเปิดสาขาแรกในเดือน มิ.ย. 2561 นี้ ซึ่งทำให้สิ้นปีมีสาขาทั้งสิ้น 24 สาขา จากปี 2560 มีจำนวน 19 สาขา ส่วนอีก 20 ล้านบาท เพื่อทำการรีโนเวท สาขาเดิมที่ครบ 5 ปี เพื่อให้มีศักยภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มรายการสินค้า อาทิ อาหารพร้อมทาน และเบอเกอรี่ เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อความหลากหลายของสินค้า และสนับสนุนยอดขายให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสินค้าเพื่อการค้าปลีกและค้าส่งกว่า 15,000 รายการ ใน 5 หมวด ได้แก่ 1.สินค้าอุปโภคในครัวเรือน, 2.ผลิตภัณฑ์ ส่วนบุคคล , 3.เครื่องดื่มและอาหารแห้ง , 4.เครื่องสำอางและ 5.สินค้าแม่และเด็ก
สำหรับทั้งปี 2561 มั่นใจรายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 10-15% ซึ่งบริษัทจะเน้นการเติบโตทั้งกำไร-รายได้ จากปีก่อนที่ทำกำไรนิวไฮ 61.29 ล้านบาท และ รายได้รวม 1,600 ล้านบาท
ที่มา : IR PLUS
www.mitihoon.com