มิติหุ้น-นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องประดับประเภทเพชรปี 2561 มีโอกาสเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก จากปัจจัยบวกที่เข้ามาสนับสนุนกำลังซื้อผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจในและต่างประเทศฟื้นตัวส่งผลให้กำลังซื้อขยายตัว รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวเมืองไทยที่ขยายตัวมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา เชื่อว่ายอดขายจะเร่งตัวขึ้นได้เรื่อยๆ
โดยในช่วงไตรมาส 2/2561 มีปัจจัยหนุนจากการจัดงานอีเว้นท์ และการออกคอลเล็คชั่นใหม่ๆ และในช่วงไตรมาส 3/2561 บริษัทฯ จะมีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ (new innovation product) ที่จะสร้างความแตกต่างสำหรับขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมถึงการเห็นสัญญาณ การเติบโตของรายได้จากสาขาเดิมในต่างจังหวัดที่เร่งตัวขึ้น มองว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากสาขาต่างจังหวัดมีสัดส่วนถึง 64%
ส่วนการขยายสาขาในปีนี้ คาดว่าจะได้เห็นในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยล่าสุดมีพื้นที่แล้วประมาณ 7 แห่ง จากเป้าหมายทั้งปีวางไว้คาดเปิดเพิ่มราว 8-12 แห่ง จากสิ้นปี 2560 มีจำนวน 125 สาขาทั่วประเทศ และจะเปิดสาขาภายใต้แบรนด์”ฟอร์เอเวอร์มาร์ค” (FOREVERMARK) 3-5 สาขา บริเวณหัวเมืองต่างๆ ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่ผ่านมา
“เศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวล่าสุดประกาศตัวเลขจีดีพีโต 4.8% ดีกว่าที่หลายหน่วยงานคาดการณ์จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ รวมถึงแผนการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งจาก สาขาเดิม และแผนการเปิดสาขา ใหม่ ทั้งของยูบิลลี่ และของฟอร์เอฟเวอร์ มาร์ค ประกอบกับยอดขายจากสาขาเดิมที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เตรียมกิจกรรมทางการตลาดไว้ หลังทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัวสนับสนุนให้การบริโภคดีขึ้น ซึ่งจะเปิดคอลเลคชั่นใหม่ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นตอบ สนองความต้องการลูกค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง สินค้าเครื่องประดับ 1 ชิ้น สามารถเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ถึง 5 แบบ รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่เตรียมงบการลงทุนเพื่อเปิดสาขาไว้ 120-150 ล้านบาท”
ล่าสุดผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2561 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 46.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 32.9 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 48% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 14% ทั้งนี้ภาพรวมธุรกิจไตรมาสแรกที่ผ่านมาของปีนี้ เป็นไตรมาสที่มีความเติบโตอย่างโดดเด่น นอกจากการใช้กลยุทธ์ที่ตอบโจทย์แล้ว ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัว และเป็นช่วงที่ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น