ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ทรีนีตี้ โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า จากกรณี กบง. มีมติบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นราคาของ LPG ต่อประชาชน โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยเพิ่มขึ้น เพื่อให้ราคา LPG อยู่ในระดับถังละ 363 บาทต่อถัง (15 กก.) ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 พ.ค.2561 เป็นต้นไป
ประเมินเบื้องต้นไม่มีผลกระทบต่อผลกำไรของ PTT เนื่องจากด้วยกลไกลของกองทุนนั้นมันที่จะเข้ามาช่วยลดผลกระทบของราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทุกๆ 1 เหรียญฯต่อบาร์เรลน้ำมันที่ขึ้น เทียบเท่า 0.18 บาทต่อลิตร ด้วยเงินกองทุนน้ำมันที่ 3 หมื่นล้านบาท ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซล 70 ล้านลิตรต่อวัน หากน้ำมันปรับขึ้น 5 เหรียญฯ กองทุนน้ำมันจะสามารถพยุงราคาดีเซลได้ 15 เดือน และหากน้ำมันปรับขึ้น 10 เหรียญฯ กองทุนน้ำมันจะสามารถพยุงราคาดีเซลได้ 7.5 เดือน ดังนั้น เชื่อว่ายังไม่มีผลต่อผลประกอบการของ PTT ในปีนี้
แต่ถ้า PTT จะต้องเข้าไปช่วยพยุงราคาน้ำมันดีเซล สมมติฐานอิงสัดส่วนการตลาดของ PTT 40% จะคิดเป็นปริมาณการขายน้ำมันดีเซลที่ประมาณ 28 ล้านลิตรต่อวัน หรือประมาณ 10,000 ล้านลิตรต่อปี ถ้า PTT จำเป็นที่ต้องเข้าไปช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลที่ 1 บาทต่อลิตร จะส่งผลกระทบต่อ EPS ประมาณ 0.35 บาท หรือเมื่อคิดเป็นผลกระทบต่อราคาประมาณ 4.30 บาทต่อหุ้นอิง Trading PE 12 เท่า
โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายเดิมที่ 64.30 บาท
www.mitihoon.com