สวัสดีนักลงทุนท่าน สำหรับสัปดาห์ทำการสุดท้ายของเดือน พ.ค.นะครับ การลงทุนก็ผันผวนมากขึ้น ต่างชาติก็ขายๆๆ กันต่อเนื่อง ทำให้ SET Index มีการปรับตัวลงมา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ด้วยเพราะปัจจัยในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนพากันเทขายเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนกัน เงินจึงไหนออกจากตลาดเอเชียรวมทั้งไทยต่อเนื่อง ในไทยเองเงินไหลออกไปแล้วกว่าแสนล้านบาท
ดังนั้น เข้าสู่เดือนมิถุนายน 2561 นี้ ผมขอให้มุมมองด้านเศรษฐกิจและการลงทุนว่า แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆที่จะเข้ามาสนับสนุน ซึ่งการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศจะยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันตลาดอยู่และตลาดในภูมิภาคเอเชียก็จะรับแรงกดดันนี้ไปด้วยเช่นกัน และเช่นเดียวกันในเดือนพฤษคมที่ผ่านมา ปัจจัยด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นสัญญาณของดอกเบี้ยและสัญญาณเงินเฟ้อ ที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น ก็จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แรงเทขายยังคงมีต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม KTBST ประเมินว่าจากการที่ตลาดได้รับรู้ปัจจัยลบหลายๆ ตัวไปมากแล้ว รวมทั้งการเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีน ที่กดดันตลาดหุ้นมาระยะหนึ่งมีข้อยุติที่น่าจะเป็นบวก นั่นคือ ทั้ง สหรัฐฯและจีนไม่ทำสงครามการค้ากัน เป็นผลให้ดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะยืนอยู่หนือแนวรับสำคัญที่ 1,750 จุด ได้ หากไม่มีปัจจัยลบอื่นๆ เข้ามา ขณะเดียวกันการรายงานผลประกอบการที่มาแล้วทำให้ขาดปัจจัยหนุนต่อหุ้นส่วนใหญ่ หุ้นที่ผลประกอบการออกมาไม่ดี แรงซื้อจะหายไป ส่วนหุ้นที่มีผลประกอบการที่ดีหรือมีแนวโน้มดี จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน KTBST มองกรอบดัชนีในเดือนจะแกว่งในกรอบ ที่ระดับ 1,750-1,800 จุด
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนนั้น นักลงทุนไม่ควรเลือกหุ้นที่มีระดับ P/E ในระดับที่สูงเกินปกติเมื่อเทียบกับการเติบโตของบริษัทนั้นๆ พร้อมทั้งเน้นลงทุนในกรอบสั้นๆ เพราะตลาดจะมีทิศทางลงทุนไปตามข่าวหรือปัจจัยระยะสั้นมากขึ้น ซึ่งเป็นการลงทุนที่แนะนำในภาวะตลาดเคลื่อนไหวแบบ sideway โดยหุ้นแนะนำเดือนนี้ได้แก่ ORI , RS , SAT
ติดตามข่าวสารต่างๆอย่างใกล้ชิดนะครับ และสามารถขอคำปรึกษาการวางแผนการลงทุนจาก Private Wealth Management ของ บล.KTBST ได้ที่ 02-648 1449 / 02- 648 -1747 ครับ
โดยชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST)