BGRIM มั่นรายได้โตเกินเป้า หลังซื้อ “ยันฮี โซล่า” ถือ 100% ทยอย COD เพิ่ม 445 เมกะวัตต์ ขณะที่กำลังผลิตในมือพุ่ง 3,000 เมกะวัตต์ หนุนผลงานปี 62 โตกระโดด

376

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM โดยนางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า คาดว่ารายได้ปี 2561 จะเติบโตมากกว่าปี 2560 ที่ตั้งเป้าไว้ 15-20% และมีกำไรสุทธิเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนเช่นกัน

เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในปีนี้เพิ่มราว 445 เมกะวัตต์ ประกอบกับจะรับรู้รายได้และกำไรเพิ่มเติมจากการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มจากโครงการโซลาร์ฟาร์ม 8 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ จากบริษัท ยันฮี โซล่า เพาเวอร์ จำกัด เป็น 100%  ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้ 500 ล้านบาทต่อปี กำไร 115 ล้านบาทต่อปี โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2561 ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส 3 จะเติบโตเพิ่มขึ้นมาก และจะเติบโตสูงสุดในช่วงไตรมาส 4/2561 ขณะที่ไตรมาส 2/2561 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/2561 จากการทยอย COD เพิ่มขึ้น

ส่วนปี 2562 ผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เนื่องจากจะรับรู้รายได้เต็มปีจากการ COD  ในปี 2561 และรับรู้รายได้จากโครงการยันฮี โซล่าเต็มปี ประกอบกับ รับรู้รายได้จากโครงการที่ COD เข้ามาเพิ่มเติมในปีหน้า

โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือกว่า 3,000 เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้ COD ในปีนี้กว่า 2,091 เมกะวัตต์ และเตรียม COD เพิ่มในปี 2562 ราว 476 เมกะวัตต์ ยังไม่รวมโครงการใหม่ที่ได้เข้ามาเพิ่ม เช่น โครงการโซลาร์รูฟท็อป 70 เมกะวัตต์ โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 420 เมกะที่มีกำหนดCOD ในปีหน้า

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพลังงานลมในเกาหลีใต้ราว 100 เมกะวัตต์ ถือหุ้นในสัดส่วน 55% คาด COD ในอีก 2 ปีข้างหน้า และโครงพลังงานเซกอง 4 ใน สปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 350 เมกะวัตต์ โดย BGRIM ถือหุ้น 20% ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

ขณะเดียวกัน BGRIM ยังมองหาโอกาสการลงทุนใหม่เพิ่มเติมโดยเฉพาะพลังงานทดแทน  ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มกับพลังงานลมในเวียดนามเพิ่มเติม ยคาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนในปีนี้อีกอย่างน้อย 2โครงการ กว่า 200 เมกะวัตต์  นอกจากนี้ยังศึกษาการลงทุนพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซีย และโซลาร์ฟาร์มในฟิลิปินส์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนเป็น 30%ในปีหน้า