“อาร์เอส” เปิดแผนเติบโตครึ่งปีหลังใช้โมเดลธุรกิจMPC รุกหนัก ยกทัพส่งสินค้าคุณภาพแบรนด์ตัวเองและพาร์ทเนอร์เขย่าตลาด

94

มิติหุ้น- ทึ่ง!! “อาร์เอส” บริษัทหนึ่งเดียวในโลกประกาศความสำเร็จโมเดล Multi-platform Commerce (MPC) ใช้แพลตฟอร์มสื่อในมือที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วมาบริหารต่อยอดดันรายได้และกำไรธุรกิจเชิงพาณิชย์เติบโตแรง เปิดแผนรุกช่วงครึ่งปีหลัง 2561 เต็มสูบ เดินเกมเหนือชั้นขย่มวงการ!! “เปลี่ยนผู้ฟังเป็นผู้ซื้อ” สร้างคอมมูนิตี้ใหม่บน LINE@ COOL Anything ชวนผู้ฟังกว่า 5.3 ล้านรายของ “คูลฟาเรนไฮต์ (COOLfahrenheit)” สถานีเพลงอันดับ1 เมืองไทย ร่วมสัมผัสประสบการณ์ช้อปสินค้าคุณภาพผลิตได้มาตรฐานทั้งแบรนด์ของตัวเองและพาร์ทเนอร์ ชี้เทรนด์สินค้าสุขภาพความงามและอาหารเสริมกำลังมาแรงทั่วโลก จ่อคิวยกทัพสินค้าใหม่เพียบตอบโจทย์ลูกค้า มั่นใจหนุนรายได้สิ้นปีนี้ทั้งกลุ่มแตะ5,800 ล้านบาทแน่!!

ลาดพร้าว-นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอสจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้อาร์เอสเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในโลกที่ประกาศใช้โมเดลธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) นำแพลตฟอร์มสื่อในมือที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วมาบริหารต่อยอดธุรกิจเชิงพาณิชย์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ทำให้รายได้และกำไรของทั้งกลุ่มเติบโตสูงอย่างน่าสนใจ โดยที่ผ่านมาได้นำช่อง8 ที่ทำเรตติ้งติด TOP 5 ของประเทศมาปั้นเป็นห้างสรรพสินค้าบนทีวี ซึ่งประสบความสำเร็จทำให้สามารถบริหารเวลาโฆษณาสัดส่วนระหว่างลูกค้าภายนอกที่ซื้อสื่อและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง ทำให้เกิดผลของการใช้สื่ออย่างเต็มประสิทธิภาพ

ล่าสุด ได้วางแผนเชิงรุกธุรกิจช่วงครึ่งหลังปี 2561 เดินเกมเหนือชั้นขย่มวงการ “เปลี่ยนผู้ฟังเป็นผู้ซื้อ” เตรียมเปิดตัว LINE@ COOL Anything คอมมูนิตี้ใหม่ที่รวบรวมสินค้าคุณภาพผลิตได้มาตรฐานทั้งแบรนด์ของตัวเองและพาร์ทเนอร์มาให้ช้อปเพียบ ชูจุดเด่นครบครันความหลากหลายทั้งกลุ่มสินค้าเฮลท์แอนบิวตี้ (Health and Beauty) และกลุ่มสินค้าโฮมแอนไลฟ์สไตล์(Home and Lifestyle) เอาใจเจาะกลุ่มผู้ฟังของ “คูลฟาเรนไฮต์ (COOLfahrenheit)” สถานีเพลงอันดับ1 เมืองไทยต่อเนื่องปีที่ 18 ซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง เพราะเป็นกลุ่มกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่มากกว่า 5.3 ล้านราย แบ่งเป็น กลุ่มผู้ฟังออนไลน์ 4 ล้านราย และกลุ่มผู้ฟังออนแอร์ 1.3 ล้านราย

ทั้งนี้ จากข้อมูลศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่าธุรกิจด้านสุขภาพความงามเป็นดาวรุ่งยอดนิยมต่อเนื่องกันมา 6 ปีมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 250,000 ล้านบาทขณะที่ ยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor International) บริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก เปิดเผยว่าตลาดอาหารเสริมสุขภาพมีมูลค่ากว่า 518,000 ล้านบาทเนื่องด้วยพิสูจน์แล้วจากวงการแพทย์ระดับโลกว่ายาเป็นการรักษาและแก้ปัญหาที่ปลายทาง ขณะที่อาหารเสริมเป็นเทรนด์ของโลกที่กำลังมาแรงมากในทวีปยุโรปและอเมริกา รวมไปถึงเอเชียอย่างญี่ปุ่นและไทยเพราะเป็นการป้องกันและดูแลสุขภาพที่ต้นทางผนวกเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้มีนวัตกรรมดูแลสุขภาพผ่านการสกัดสารอาหารต่างๆ ดังนั้น การเลือกใช้อาหารเสริมที่ถูกต้องและเหมาะสมในการดูแลร่างกายในต่างประเทศจึงมีมานับสิบๆ ปี แต่เมืองไทยเพิ่งตื่นตัวเมื่อ 5 ปีก่อนจากความเชื่อมโยงของโลกโซเชียล ทำให้ไร้เส้นแบ่งข้อมูลข่าวสารส่งถึงกันอย่างรวดเร็วทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นและมีแนวโน้มจะเติบโตดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลดีต่ออาร์เอสที่ขยายธุรกิจสู่ตลาดนี้เป็นปีที่ 4

เพื่อขานรับเทรนด์โลกข้างต้น บริษัทฯ เตรียมยกขบวนนวัตกรรมสินค้าคุณภาพที่ผลิตได้มาตรฐานอีก 15 รายการเพิ่มความหลากหลายตอบรับกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ได้แก่ สินค้าแบรนด์ตัวเอง 7 รายการ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และกลุ่มสินค้าออร์แกนิคเพื่อสุขภาพ 4 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ 1 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 รายการ และสินค้าแบรนด์พาร์ทเนอร์กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 8 รายการ หลังจากช่วงครึ่งแรกปี 2561 มีผลตอบรับจากลูกค้าทำยอดขายดีเกินคาดทั้ง 3 ได้แก่กลุ่มสกินแคร์แบรนด์มาจีค กลุ่มแฮร์แคร์แบรนด์รีไวฟ์ และกลุ่มอาหารเสริมแบรนด์เอส.โอ.เอ็ม. ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ มุ่งเน้นคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาผลิตสินค้า ขณะเดียวกันควบคุมการผลิตสินค้าทุกขั้นตอนให้ได้มาตรฐานระดับสากล รวมทั้งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำและทดสอบสินค้าจริงก่อนจำหน่าย

นอกจากนี้ เตรียมยกทัพสินค้าใหม่แบรนด์พาร์ทเนอร์ร่วม 20 รายการเข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือนและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย

อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะทำรายได้ทั้งกลุ่มได้ตามเป้าที่วางไว้ 5,800 ล้านบาท หลักๆ มาจากธุรกิจเฮลท์แอนบิวตี้ 2,500 ล้านบาท และธุรกิจโฮมแอนไลฟ์สไตล์ 800-1,000 ล้านบาท เพราะมีข้อได้เปรียบรู้ว่าฐานผู้ชมคือใครช่วงไหนใครดูมีการเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมกับผู้บริโภค เพื่อนำเสนอสินค้าได้ถูกต้องและแม่นยำทำให้เกิดการขายต่อยอดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดิมร่วม 1 ล้านราย กลับมาซื้อซ้ำเพิ่มผ่านโทร.1781 และได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาหนุนยอดเติบโตก้าวกระโดด