ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET โดยนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า คาดรายได้ปี 61 จะดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 3,261.08 ล้านบาท และคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/61 จะดีกว่าช่วงไตรมาส 1/61 เนื่องจากบริษัทมีแผนเพิ่มบุคลาการเข้ามามากขึ้น หลังจากปี 60 บริษัทขาดแคลนบุคลากรไปกว่า 200 คน ประกอบกับในปีนี้บริษัทได้มีแผนขยายไปยังธุรกิจอื่น ได้แก่ ธุรกิจเวลเมเนจเมนท์ เพื่อกระจายช่องของรายได้มากขึ้น
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทยอมรับว่าในปีนี้อันดับมาเก็ตแชร์ของบริษัทจะลดลงไปอยู่อันดับที่ 2 เนื่องจากหลายบริษัทมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำการตลาดการลงทุนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้บริษัทยังตั้งเป้าในปีนี้จะเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่อีก 20,000 ราย ซึ่งคาดว่าทั้งปีนี้จะมีลูกค้าอยู่ที่ระดับ 2.1 แสนราย
นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาธุรกิจวาณิชธนกิจราว 27 ราย แบ่งเป็นธุรกิจ M&A 3-4 ราย กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 1-2 กอง กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1-2 หุ้น IPO 14-15 บริษัท ที่ปรึกษาการเพิ่มทุน 1-2 ราย และเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 1-2 ดีล ทั้งนี้บริษัทคาดหวังว่าในปีนี้จะมี IPO เข้าจดทะเบียนประมาณ 5-7 ราย
นายมนตรี กล่าวอีกว่า บริษัทจะเข้าเจรจากับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อให้ตรวจสอบระบบการซื้อขายแบบอัฉริยะ เนื่องจากระบบส่งคำสั่งซื้อตามสัญญาณการซื้อขาย ซึ่งจะเป็นลักษณะเดียวกัน ส่งผลให้ราคาหุ้นมีความผิดเพี้ยน และทำให้ราคาหุ้นสูงจนเกินไป โดยบริษัทมองว่าเป็นการเอาเปลี่ยบของนักลงทุนค่อนข้างมาก
“สำหรับประเด็นที่มีบริษัทถูกฟ้องหมิ่นประมาท จากโบรกเกอร์รายหนึ่ง ขณะนี้ศาลได้รับฟ้องแล้ว แต่ยังไม่มีการเรียกไปชี้แจง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าทุบหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นเรื่องผิดพลาดจากตัวบุคคลไม่เกี่ยวของกับบริษัท และได้ดำเนินการลงโทษพนักงานคนนั้นแล้ว” นายมนตรี กล่าว
www.mitihoon.com
