KTECH หรือ บมจ.เคเทค คอนสตรัคชั่น ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรม โดยหุ้น KTECH เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อปี 2547 ในตลาด mai ด้วยราคา IPO ที่ 7.00 บาทต่อหุ้น ราคาพาร์ 1.00 บาท ซึ่งราคาซื้อขายสุดท้ายของหุ้น KTECH ก่อนถูกแช่แข็งเมื่อปี 2550 อยู่ที่ 0.43 บาทต่อหุ้น
เผชิญวิกฤติการเงิน – ฟื้นฟูกิจการ
KTECH เป็นหนึ่งในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ดูเหมือนจะมีอนาคตไกลในยุคนั้น ซึ่งธุรกิจเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการประกาศรับงานใหม่ๆ เข้ามา แต่ในเบื้องหลังกลับกลายเป็นว่า KTECH มีปัญหาซุกอยู่ใต้พรมที่นักลงทุนรายย่อยอาจไม่ระแคะระคาย ก่อนจะเริ่มส่งสัญญาณเมื่อส่งงบการเงินปี 2550 ล่าช้า พร้อมกับประสบกับปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2551 และนำไปสู่การยื่นต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการในปี 2553 ซึ่งศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการในปี 2554
ตลอดเวลาที่ KTECH อยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ ได้มีการดำเนินการต่างๆ ทั้งการตั้งบริษัทย่อยเพิ่มเติม เพื่อเข้าไปรับงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น เช่น งานก่อสร้างและปรับปรุงทางรถไฟ รวมไปถึงการรับงานออกแบด้านวิศวกรรม ต่อมาในปี 2557 ศาลล้มละลายกลางได้ยกเลิกคำสั่งการฟื้นฟูฯ รวมถึง KTECH ได้ยื่นต่อตลท.เพื่อขอกลับเข้ามาซื้อขาย พร้อมกับขอขยายเวลาดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอน
เดินเกมล้างขาดทุนสะสม
ในปี 2561 KTECH ได้ดำเนินการแก้ปัญหาขาดทุนสะสม ด้วยการลดลดทุนจดทะเบียน โดยตัดหุ้นที่ยังไม่จำหน่าย จาก 3,927.213 ล้านหุ้น เป็น 3,927.156 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท รวมทั้งเปลี่ยนแปลงพาร์จาก 1.00 บาท เป็น 2.00 บาท และลดจำนวนหุ้นสำมัญลงโดยการรวมหุ้นในอัตราส่วนจาก 2 หุ้น เป็น 1 หุ้น เป็น 1,963.578 ล้านหุ้น จาก 3,927.156 ล้านหุ้น
จากนั้น KTECH ได้ลดทุนจดทะเบียนเพื่อล้างขาดทุนสะสมโดยวิธีลดมูลค่าหุ้น จากหุ้นละ 2.00 บาท เป็น 0.65 บาท เพื่อชดเชยส่วนต่ำมูลค่าหุ้นสุทธิและล้างขาดทุนสะสม โดยมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 3,927.156 ล้านบาท เป็น 1,276.325 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขจากตลท.พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2561 KTECH ยังมีขาดทุนสะสมอยู่ราว 320.69 ล้านบาท จากปี 2560 ที่มีขาดทุนสะสม 1,184.53 ล้านบาท
วางเป้ารับงานใหม่ 6.5 พันลบ.
จากประกาศของตลท.เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2561 พบว่า KTECH เป็นหุ้นที่อยู่ในข่าย Resume Stage หลังจากแก้ไขปัญหาส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบได้สำเร็จ แม้ผลประกอบการไตรมาส 1/2561 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 84.66 ล้านบาท แต่ทาง KTECH ตั้งเป้าหมายธุรกิจในปี 2561 ไว้ว่า จะสามารถรับงานใหม่ๆ เข้ามาคิดเป็นมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 6.5 พันล้านบาท รวมถึงเน้นในเรื่องของอัตรากำไรขั้นต้นมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการรับงานของภาครัฐเป็นหลัก
