หลังจาก “โหม่งโลก” ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ปรากฎว่า “หุ้นไทย” วันพุธที่ 20 มิ.ย. กลับมา “ฟื้นไข้” โดยดัชนีเขียวพรึ่บตลอดวัน และปิดที่ระดับ 1,664.26 จุด เพิ่มขึ้น 24.72 จุด มูลค่าซื้อขาย 60,045.53 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 3,632.69 ล้านบาท กองทุน ซื้อสุทธิ 2,434.32 ล้านบาท บัญชีโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 1,171.66 ล้านบาท และรายย่อย ซื้อสุทธิ 2,370.02 ล้านบาท
ตัดฉากกลับไปเมื่อวันอังคารที่ 19 มิ.ย. วันที่ดัชนีโหม่งโลก ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงค่อนข้างแรง ปิดที่ระดับ 1,639.54 จุด ลดลง 40.14 จุด หรือ 2.39% มูลค่าซื้อขาย 84,628.60 ล้านบาท โดยดัชนีปิดต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จากเดือน ก.ย.60 ที่ดัชนีเคยทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,635.35 จุด
ปัจจัยลบหลัก ยังคงเป็น “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐกับจีน ที่มีการตอบโต้ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ต่างฝ่ายต่างขู่ใส่กัน จะเก็บภาษีสินค้าในอัตราร้อยละ 25 คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถัดมาวันจันทร์ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จัดชุดใหญ่ ขู่จะขึ้นภาษีอัตราร้อยละ 10 กับสินค้าอีกระลอก คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เจอแบบนี้ กระทรวงพาณิชย์จีน “สวนทันควัน” จะขึ้นภาษีในอัตราและมูลค่าเท่าๆ กันกับสหรัฐ
สงครามระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ แต่ป่วนไปทั้งโลก หุ้นทั่วโลกทรุดหนัก เงินไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ ไหลเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ ดันเงินดอลลบาร์แข็งค่า เงินสกุลอื่นๆ อ่อนค่าลง รวมทั้งเงินบาทของไทย แต่ท่วา!! หุ้นสหรัฐ กลับปรับตัวลดลงเช่นกัน เดาทางกันยาก ในภาวะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน
กลับมาที่ประเด็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ลุ้นกันว่า เมื่อไหร่จะปรับขึ้นตามชาวโลกเขาบ้าง แต่ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2561 มีมติ “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ 1.50% ต่อปี” เช่นเดิม แม้ว่า เสียงจะแตกก็ตาม
แม้ดอกเบี้ยของไทย ยังไม่ปรับขึ้น แต่ SET เริ่มฟื้นไข้ หลังจากที่ซมพิษสงครามการค้ามาหลายวันติดต่อกัน แต่มีคำถามว่า.. SET ฟื้นแล้วจริงหรือ? หรือแค่กระตุกขึ้นมาให้พอกระชุ่มกระชวยระยะสั้นเท่านั้น
วันนี้รู้กัน ฟื้นหรือฟุบ
“บิ๊กเซ็ต”