TITLE ยึดหัวหาดเพิ่มรุกซื้อที่ดิน หาดบางเทา จ.ภูเก็ต รองรับโครงการอนาคต มูลค่ากว่า 10,000 ลบ.

182

มิติหุ้น-บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้  หรือ TITLE ขยายทำเลต่อเนื่องลุยซื้อที่ดิน หาดบางเทา จ.ภูเก็ต ก้าวสู่ทำเลที่ 3 ส่งผลให้มีโครงการเพื่อพัฒนาอสังหาฯครบทั้งตอนเหนือ-กลาง-ใต้ เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า  ตุนที่ดินพัฒนาในอนาคตได้อีก 6-10 ปี มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท รองรับเป้าหมายรายได้รวมปี 2563-2565 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เผยปัจจุบันมียอด Presale เกินกว่า 90% ของมูลค่าโครงการ และมียอดขายสะสมรอโอน ประมาณ 1,500 ล้านบาท จ่อทยอยโอนตั้งแต่ Q2/61 พร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าหมาย

นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ. ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ หรือ TITLE เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2561 บริษัทฯได้ซื้อที่ดินริมหาดบางเทา จ.ภูเก็ต เนื้อที่กว่า 13.5 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นทำเลที่ 3 หลังจากประสบความสำเร็จจากหาดราไวย์ และหาดในยางที่ผ่านมา โดยหาดบางเทาถือเป็นอีกหาดที่มีความสวยงามเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ทั้งนี้ การซื้อที่ดินหาดบางเทา ทำให้ TITLE มีที่ดินรอการพัฒนาเป็น 3 หาด ที่สามารถพัฒนาโครงการในอนาคต 6-10 ปี มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท รองรับเป้าหมายในปี 2563-2565 ซึ่งตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยวางแผนเปิดตัวโครงการทั้ง 3 ทำเล ในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 4/2561 เป็นต้นไป แบ่งเป็น โครงการในหาดราไวย์ มูลค่าประมาณ 650 ล้านบาท โครงการหาดในยาง มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท และโครงการหาดบางเทา มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท

นายศศิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า TITLE อาจเป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาฯที่มีขนาดเล็ก เพื่ิอหวังกลุ่มที่มีกำลังซื้อเป็นชาวต่างชาติสัดส่วน 80 % จากฐานลูกค้าที่มีกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และเป็นกำลังซี้อที่มีศักยภาพทางการเงินสูง มีความสามารถชำระเงินดาว์น (เงินล่วงหน้า) 50-75% ก่อนการโอน โดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของบริษัทฯ นอกจากนี้ TITLE ยังเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่บริหารโครงการเอง ควบคุมการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างเอง ทำให้สามารถลดต้นทุนการก่อสร้างได้ต่ำกว่า 10-15% ของต้นทุนรวม  หรือกว่า 5% ของมูลค่าขายโครงการ ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเกินกว่า 40% ซึ่งถือเป็นอีกจุดเด่นเราที่แตกต่างจากผู้พัฒนาอสังหาฯทั่วไป

“เราเติบโตอย่างระมัดระวัง บริหารเงินทุนที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเราคำนึงถึงความไว้วางใจที่ผู้ถือหุ้นมีต่อเรา ตั้งแต่ครั้งเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา”  นายศศิพงษ์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าของโครงการที่เปิดขายอยู่ทั้งที่หาดราไวย์และหาดในยางนั้น ปัจจุบันมียอด Presale เกินกว่า 90% ของมูลค่าโครงการทั้ง 2 หาด ส่งผลให้มียอดขายสะสมรอโอน (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งได้ทยอยโอนตั้งแต่ไตรมาส 2 /2561 และยอดโอนจะสูงใน ไตรมาส 4/2561 เป็นต้นไป เนื่องจากจะเป็นการเริ่มโอนโครงการหาดในยาง มูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จทันตามกำหนด ส่วนยอดรอขายที่เหลือ 200 ล้านบาท คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปีนี้ และทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาเป้าหมายรายได้ของปี 2561 และ 2562 ได้ตามที่วางไว้ คือ 600 ล้านบาท และ 900 ล้านบาทตามลำดับ

www.mitihoon.com