มิติหุ้น-บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ราคาล่วงหนักเกือบ 7 % โดยราคาต่ำสุดที่ 72.50 บาท ส่วนราคาลุ่ด(15.11 น.) อยู่ที่ 73 บาท ลดลง 4.75 บาท หรือ – 6.11 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 428.28 ล้านบาทเบื้องต้นนักลงทุนอาจจะกังกวลจากนโยบายการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด(Clean Fuel Project หรือ CFP)ที่มีมูลค่าราว 1.6 แสนล้านบาท(4,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)หลังจากเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา TOP คณะกรรมการมีมติอนุมัติลงทุน CFP และยังมีประมาณการดอกเบี้ยระหว่างก่อสราง 151 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5,016 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการลงทุนและพัฒนาโครงการ CFP ประมาณ 4-5 ปี ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1 ปี 2566
ขณะที่แหล่งเงินลงทุนที่ใช้ในการดำเนินโครงการ CFP มาจากเงินสดคงเหลือปัจจุบันจำนวนประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน และหรือ เงินทุนจากการออกและเสนอขายตราสารหนี้ อาทิการออกหุ้นกู้ วงเงิน 1,500-2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และที่เหลือจากกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ในอนาคตอีกจำนวนประมาณ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ด้านบทวิเคราะห์ บล.โนมูระ ระบุว่า เรามีมุมมองเชิงบวก ต่อโครงการ CFP เนื่องจาก ต้องใช้เวลาก่อสร้าง ราว 5 ปี โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตจาก 275 KBD เป็น 400 KBD และช่วยประหยัดต้นทุน น้ำมันดิบเข้ากลั่น ขณะที่ upgrade น้ำมันเตาเป็นกลุ่ม Middle Distillate ซึ่งมีอัตรากำไรดีกว่า พร้อมประเมิน upside 27.79 บาท/หุ้น อิงสมมติฐานกำลังการผลิต 400 KBD (2.)ค่าการกลั่นพื้นฐาน 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล โดยสัดส่วนน้ำมัน FO และ Middle distillate เปลี่ยนจาก 7 % และ 55 % เป็น 0 % และ 65 % ตามลำดับ
(3.)ต้นทุนการกลั่น OPEC ที่ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และ 4 คาดว่า COD ปี 2023 คาดราคาหุ้นสะท้อนผลการดำเนินงานไตรมาส2 /2561 ที่อ่อนแอไปแล้ว ขณะที่แนวโน้ม ช่วงครั้งหลังปี 2561 คาดค่าการกลั่นได้แรงหนุนจากช่วงฤดูกาลขับขี่และฤดูหนาวประกอบกับ Dividend yield ราว 5 % แนะนำ “หาจังหวะเข้าซื้อสะสม” ที่ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 100 บาท/หุ้น
www.mitihoon.com
