มิติหุ้น-IRPC แนวโน้มไตรมาส2 โตแกร่งเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตค่าการกลั่นเฉลี่ยในระดับ 14-15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลุ้นกำไรสต๊อกน้ำมัน มั่นใจผลประกอบการ61 นิวไฮ เร่งสรุปร่วมลงทุนกิจการผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกขั้นปลายไตรมาส3/61 เสนอบอร์ด
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายปิโตรเคมีภัณฑ์ โดยนายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส2/61 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าไตรมาส1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 2,751 ล้านบาท รายได้ 66,399 ล้านบาทเนื่องจาก ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยในช่วงไตรมาส2/61 ราคาน้ำมันปิดที่ 74.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาส1/61 ที่อยู่ในระดับ 62.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน
ขณะกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ไม่รวมผลกระทบจากการสต๊อกน้ำมันคาดว่าจะใกล้เคียงไตรมาส1/61 ที่อยู่ในระดับ 14.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเนื่องจากมาร์จิ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังอยู่ระดับที่ดี ส่วนมาร์จิ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์โรงกลั่นปรับตัวลดลงเล็กน้อย
ส่วนภาพรวมปี 2561 คาดว่าจะสามารถทำผลประกอบการเติบโตทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) เนื่องจากปีนี้ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ ประกอบกับบริษัทมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะการการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตันต่อปี รวมถึงการดำเนินโครงการ Everest forever ซึ่งเป็นโครงการที่จะดำเนินการต่อจากโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในทุกด้านช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ได้เป็นอย่างดี
โดยคาดว่าภาพกำลังการกลั่นปีนี้จะอยู่ในระดับสูงกว่า 210,000 บาร์เรลต่อวันจากปี2560 อยู่ในระดับ 180,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยในระดับ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และจะรักษาระดับค่าการกลั่นในอยู่ในระดับ 14-15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล รวมถึงได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมโครงการไออาร์พีซี คลีนเพาเวอร์2 ที่เดินเครื่องเติมกำลังผลิตปีนี้ และได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าลง
ส่วนความคืบหน้าโครงการ MARS คาดว่าจะใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นราว 1.1 พันล้านบาทจากเดิม 1 พันล้านบาทสำหรับก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์เนื่องจากศึกษาแล้วพบว่าสามารถขยายกำลังการผลิตพาราไซลีน 1.1-1.3 ล้านตันต่อปี จากเดิม 1 ล้านตันและเบนซีน 3-5 แสนตันปีต่อปี จากเดิม 3 แสนตันต่อปี โดยคาดว่าจะสรุปได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ และหาผู้รับเหมาได้ในกลางปี 62 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปีครึ่ง แล้วเสร็จในปี 65
ขณะที่ศักยภาพในการลงทุนนั้น IRPC นั้นมีศักยในการลงทุนเป็นอย่างดีเนื่องจากมีกระแสเงินสดปีละ 10,000 ล้านบาท หนี้สินต่อทุน 0.5 เท่า ส่วนภาวะหนี้สุทธิรวม 50,000 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนหนี้สกุลเงิน USA 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความคืบหน้าในการร่วมลงทุน (M&A) ในกิจการผู้ผลิตเม็ดพลาสติกขั้นปลายนั้นการดำเนินการเจรจามีความคืบหน้ามากขึ้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปและสามารถนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) IRPC อนุมัติได้ในช่วงไตรมาส3/61 โดยกิจการนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง
www.mitihoon.com