อันดับที่ 1 IRPC ไตรมาส2/61 โตแกร่ง มั่นใจ 61 ผลประกอบการนิวไฮ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายปิโตรเคมีภัณฑ์ โดยนายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส2/61 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าไตรมาส1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 2,751 ล้านบาท รายได้ 66,399 ล้านบาทเนื่องจาก ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยในช่วงไตรมาส2/61 ราคาน้ำมันปิดที่ 74.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาส1/61 ที่อยู่ในระดับ 62.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน ขณะกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ไม่รวมผลกระทบจากการสต๊อกน้ำมันคาดว่าจะใกล้เคียงไตรมาส1/61 ที่อยู่ในระดับ 14.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเนื่องจากมาร์จิ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังอยู่ระดับที่ดี ส่วนมาร์จิ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์โรงกลั่นปรับตัวลดลงเล็กน้อย
อันดับที่ 2 FLOYD ราคาหุ้นพุ่งแรงกว่า 4.76% หลังคว้างานใหม่มูลค่า 197 ลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ฟลอยด์ หรือ FLOYD ณ เวลา 10.55 น. ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 4.76% มูลค่าการซื้อขายที่ 10.8 ล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์ บล.ธนชาต ประเมินแนวโน้มราคาหุ้นว่า มีสัญญาณการปรับตัวอยู่ในระดับที่ดีขึ้น ประกอบกับมีวอลุ่มเข้ามามากขึ้น ทั้งนี้แนะนำให้รอซื้อที่แนวรับ 2.50 บาท และประเมินแนวต้านอยู่ที่ 2.82 บาท ด้านผู้บริหาร กล่าวว่า คาดว่าแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศที่มีทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้มีงานประมูลโครงการใหม่มากขึ้น ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมที่จะเข้าประมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะสมงานในมือ (Backlog) เข้ามาเพิ่มขึ้น
อันดับที่ 3 K โกยทรัพย์ครึ่งปีหลังไม่ต่ำกว่า 1พันลบ. ดันรายได้ทะลุเป้า 25%
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. หรือ K โดย นาย ชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ประธาน กรรมการ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมรับรู้งานในมือ(Backlog)กว่า 1,300 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังราว 80-90% อีกทั้งบริาทยังหางานใหม่เข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะสามารถทำได้มากกว่าเป้าหมายทั้ตั้งไว้ 20-25% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,150.14 ในส่วนของกำไรสุทธมั่นใจว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากการเน้นรับงานที่มีมาร์จิ้นในระดับสูง จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 15.38 ล้านบาท
อันดับที่ 4 SMIT ชูเป้ารายได้ปีนี้วิ่งเข้าเป้า 15% เชื่อครึ่งหลังเข้าช่วงพีคธุรกิจ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สหมิตรเครื่องกล หรือ SMIT โดยนาย ชัยศิลป์ แต้มศิริชัย ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 จะลดลงกว่าช่วงไตรมาส 1/2561 เหตุจากช่วงเดือน เมษายนที่ผ่านมาเป็นเดือนที่มีเทศกาลและวันหยุดยาวหลายวัน จึงทำให้มีวันทำงานที่น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจว่าออเดอร์จะเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเป้าหมายทั้งปีรายได้จะเติบโตได้ 10-15 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,182 ล้านบาท ตามสินค้าและบริการที่แข็งแกร่งพร้อมทั้งนำเข้าสินค้าใหม่ๆอยู่เสมอ อาทิ เช่น Laser Cutting Machinesหรือเครื่องตัดเหล็กเลเซอร์ ที่มีความละเอียดและทันสมัย ในการใช้งาน ซึ่งขณะนี้เป็นที่สนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
อันดับที่ 5 CNT จ่อเซ็นงาน 2 สนามบิน 5 พันลบ. รักษาระดับรายได้ปีนี้ 8 พันลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) หรือ CNT ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง โดยนายพิเชฐ นิ่มพานิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคม 2561 บริษัทเตรียมเซ็นสัญญางานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยาน จ.กระบี่ และ จ.ขอนแก่น มูลค่าราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ยอดงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ล้านบาท จากที่มีอยู่เดิม 7,000 ล้านบาท รับรู้เป็นรายได้ในปี 61-62 ขณะที่ภาพรวมรายได้ปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 8,000 ล้านบาท
www.mitihoon.com