มิติหุ้น-MGT สุดปลื้มพันธมิตรรายใหม่ ดอดซื้อหุ้น 50% ในบ.ย่อย ‘เวอร์ทิส ลาเท็กซ์’ หวังรุกตลาดยางพาราในจีน ส่วนงบไตรมาส 2/61 โตเด่น เหตุออเดอร์ทะลัก จับตาไตรมาส 3/61 ซดกำไร CMJ เฉลี่ย 18-20 ล้านบาทต่อปี
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เมกาเคม (ประเทศไทย) หรือ MGT โดย “นายวิทยา อินาลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทเตรียมส่งบริษัทย่อย “บจ.เวอร์ทิส ลาเท็กซ์” เข้าร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจยางพาราที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
พันธมิตรดอดซื้อหุ้นลูก
โดย “บจ.เวอร์ทิส ลาเท็กซ์”ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายหมอนและที่นอนยางพารา ซึ่ง MGT ถือหุ้น 30% และ กลุ่มตระกูลเกิดวงศ์บัณฑิต, กลุ่มตระกูลอุปัติศฤงศิ์, กลุ่มตระกูลพันธุ์โกศล ถือหุ้น 70% โดย “พันธมิตรรายใหม่” จะเข้ามาซื้อหุ้น “บจ.เวอร์ทิส ลาเท็กซ์” จากกลุ่มตระกูลเกิดวงศ์บัณฑิตและกลุ่มอื่นๆในสัดส่วน 50% ดังนั้นหากการร่วมทุนเป็นผลสำเร็จโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ “บจ.เวอร์ทิส ลาเท็กซ์” จะเปลี่ยนเป็น พันธมิตรใหม่ถือหุ้น 50% ,MGT ถือ 30% และกลุ่มตระกูลเกิดวงศ์บัณฑิตและกลุ่มอื่นๆถือหุ้นลดลงเหลือ 20% คาดว่าจะได้ข้อสรุป ส.ค.-ก.ย.61 นี้
ทั้งนี้ “พันธมิตรรายใหม่” จะเข้ามาช่วยทำการตลาดในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และพันธมิตรก็มีฐานลูกค้าในมืออยู่แล้ว โดยการร่วมทุนครั้งนี้จะช่วยผลักดันภาพธุรกิจ “บจ.เวอร์ทิส ลาเท็กซ์” ให้พลิกทำกำไรช่วงแรกราวๆ 4-5 ล้านบาทต่อปี และจะค่อยๆเติบโตต่อเนื่อง จากเดิมที่ขาดทุน 4-5 ล้านบาทต่อปี
Q3บุ๊กกำไรCMJเข้าพอร์ต
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2561 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/2560 ที่มีกำไรสุทธิ 10.11 ล้านบาท จากการออกผลิตภัณฑ์เพื่อเจาะอุตสาหกรรมใหม่ๆ รวมถึงได้เซ็นสัญญางานใหม่หนุนให้ Back log เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 นี้ รวมถึงจะมีการประมูลงานใหม่ในทุกๆเดือนด้วย ส่วนบ.ร่วมทุนในเมียนมาปริมาณงานเริ่มเข้ามาสูงขึ้น
ส่วนไตรมาส 3/2561 ผลงานจะเร่งตัวขึ้น เพราะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรใน “บจ.ซี.เอ็ม.เจ. แองเคอร์ หรือ CMJ”ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทเอทานอลหรือแอลกอฮอลบริสุทธิ์ ซึ่งบ.ย่อยถือหุ้น 80% โดย CMJ สร้างรายได้ 200 ล้านบาทต่อปี และ กำไรเฉลี่ย 18-20 ล้านบาทต่อปี แต่ในปี2561 จะรับรู้กำไรเพียงครึ่งปีประมาณ 7-8 ล้านบาทดังนั้นทั้งปี 2561 บริษัทเตรียมปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้รวมจากเดิมแค่ 658 ล้านบาท
www.mitihoon.com