มิติหุ้น – SEAFCO รอเวลา ร.ฟ.ท.เคาะผู้ชนะประมูลรฟฟ.ความเร็วสูงเชื่อมต่อ3สนามบิน หวังรับออเดอร์ใหม่เพียบ พร้อมฟันธงผลงานQ2/61 โตแรง หลังตุนBacklog เกือบ 4,000 รับรู้รายได้ต่อเนื่อง มั่นใจจากนี้พื้นฐานเปลี่ยน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ซีฟโก้ หรือ SEAFCO ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างงานเสาเข็มเจาะ งานฐานราก และงานโยธาทั่วไป โดยนายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า จากที่ร.ฟ.ท. ได้เปิดการขายซองประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงินโดยรวม 2.2 แสนล้านบาท มีเอกชนที่ประกอบธุรกิจประเภทรับเหมารายใหญ่ทั้งในประเทสและต่างประเทศเข้าซื้อซองแล้วหลายราย โดยการขายซองประมูลในครั้งนี้มีไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค. โดยร.ฟ.ท.จะจัดประชุมชี้แจง 2 ครั้ง ในวันที่ 23 ก.ค. และวันที่ 24 ก.ค. และกำหนดรับซองวันที่ 12 พ.ย. โดยภายหลังจากที่ได้ผู้ชนะจากการประมูลแล้ว เชื่อว่าผู้รับเหมารายดังกล่าวนั้นจะมีการสั่งออเดอร์มายังบริษัท โดยเฉพาะประเภทเสาเข็ม ซึ่งบริษัทมีทุกประเภทและสามารถจัดหาวัสดุได้ตามที่ผู้ประกอบรายดังกล่าวต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้งานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ถือว่ามีมูลค่าค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะได้รับอานิสงส์อย่างแน่นอน
“โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโปรเจ็กต์เร่งด่วน ซึ่งกระบวนการต่างๆอาจจะเร็วกว่าโครงการอื่นๆที่ผ่านมา แต่เราก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะได้ข้อสรุปตอนไหน ซึ่งกระบวนการต่างๆมีหลายขั้นตอนมาก เริ่มจาก ได้ผู้ชนะประมูล และต่อมาเป็นการเซ็นสัญญา และต่อจากนั้นเป็นการส่งมอบสถานที่ ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราเริ่มรู้ว่าได้รับงานมากน้อยแค่ไหน” นายณรงค์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 คาดว่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 1/2561 เป็นอย่างมาก จากการทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ที่มีเกือบ 4,000 ล้านบาท และช่วงที่เหลือของปีจะทยอยรับรู้เป็นรายได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้30% ตามแผนที่วางไว้ ตามงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นและยังเลือกรับงานที่ได้มาร์จิ้นระดับสูง
ทั้งนี้จำนวนงานในมือนั้นบริษัทจะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับ 3,000-4,000 อยู่โดยตลอด จากก่อนหน้านี้ที่เคยรับงานในมือที่เฉลี่ยเพียง 1,000-2,000 ล้านบาท ดังนั้นพื้นฐานของบริษัทจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่้งจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนในอนาคต ทางมีนโยบายรับงานให้เพิ่มขึ้นมากกว่า แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดขึ้นปีใด แต่หาก มีความเคลื่อนไหวของความสามารถในการรับงานทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบโดยทันที