อันดับที่ 1 SPALI ทุ่มกว่า 4 พันลบ. ตั้งโต๊ะซื้อ MK ราคาหุ้นละ 4.10 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ศุภาลัย หรือ SPALI โดย นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการและเลขานุการบริษัท เปิดเผยว่า จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) มีมติให้บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 99.99% ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด 100% หรือจำนวน 992.01 ล้านหุ้น ใน MK โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ในราคาหุ้นละ 4.10 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 4.07 พันล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขว่า SPM จะทำการยกเลิกคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่า 25% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้ง หมดของ MK ทั้งนี้การทำคำเสนอซื้อไม่ได้มีเจตนาเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจการลงทุนในบริษัทซึ่งมีทรัพย์สินที่บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทโดยการเพิ่มทุน และ/หรือการกู้ยืมจากบริษัท และ/หรือได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน สำหรับทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของกิจการ
อันดับที่ 2 บล.เออีซี ชู SMPC ปีนี้กำไรมีแววแตะ 605ลบ. แนะ ซื้อ ให้เป้า 14.8บ.
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บล.เออีซี โดย ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการประเมิน บมจ.สหมิตรถังแก๊ส หรือ SMPC พบว่า ช่วงครึ่งปีหลัง กำไรมีแนวโน้มดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ด้วยคำสั่งซื้อถังแก๊สจากตลาดในทวีปแอฟริกาและเอเชียยังโตต่อเนื่อง บวกกับ ตลาดถังแก๊สในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ยังมีศักยภาพเติบโตได้อีก เพราะการสนับสนุนของภาครัฐที่มองว่า LPG เป็นเชื้อเพลิงที่ราคาถูกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งบริษัทมีแผนขยายกำลังผลิตถังแก๊สเพิ่มเป็น 10.0 ล้านใบ จากปี 2560 ที่ 8.2 ล้านใบ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในไตรมาส 3/2561ดังนั้น จึงคงประมาณการเดิม โดยคาดปี 2561 SMPC มีกำไรสุทธิ 605.6 ล้านบาท โต 13.9% จากปีก่อน ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนโมเมนตัมคำสั่งซื้อถังแก๊สที่โตต่อเนื่องในตลาดเอเชียและแอฟริกา อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 19.4% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 ที่ 14.8 บาท และคาดให้ Div. Yield ปีนี้ที่ 5.5% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
อันดับที่ 3 TTW Q2/61มีกำไร 700 ลบ.แนะซื้อ 13.70 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีทีดับบลิว หรือ TTW โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป ประเมินหุ้น TTW ไตรมาส2/61 จะมีกำไรสุทธิที่ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามปริมาณการขายที่สูงขึ้นราว 6.7% หรือคิดเป็น 77.77 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นทั้งครัวเรือนและอุตสาหกรรม และรับส่วนแบ่งกำไรจาก บมจ.ซีเค พาวเวอร์ หรือ CKP เพิ่มขึ้นที่คาดกำไรจะเติบโตขึ้นจากปริมาณฝนในลาวที่เพิ่มขึ้นทำให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 13.70 บาท
อันดับที่ 4 WICE เผยQ2โตกว่าQ1 แถมมั่นใจทั้งปี รายได้แตะ 1.8พันลบ. ตามทุกธุรกิจโต-ค่าระวางเรือเพิ่มหนุน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ หรือ WICE โดย นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 2/61 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมธุรกิจเข้าสู่สภาวะปกติ หลังผ่านช่วงโลว์ซีซันประกอบกับค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่า ทำให้บริษัทไม่มีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเหมือนงวดไตรมาส 1/61 พร้อมทั้งมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายประมาณ 1,800 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากงวดปี 2560 ทำสถิติการสูงสุดต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ขยายธุรกิจแบบ Organic จากการเพิ่มปริมาณงานบริการทุกช่องทาง และการเติบโตแบบ Inorganic ด้วยการต่อยอดธุรกิจร่วมกันระหว่าง WICE , SEL และ UWT มุ่งเน้นการขยายปริมาณงานในประเทศจีน ฮ่องกง และอาเซียน นอกจากนี้ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทางWICE ได้รับอานิสงส์บวกไปด้วยเช่นกัน
อันดับที่ 5 BTS มั่นใจไตรมาส1ยังโตสดใสเล็งหาพันธมิตรเพิ่มประมูลรถไฟความเร็วสูง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ หรือ BTS ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า บีทีเอส โดยนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ มั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส1/61-62 (เม.ย.-มิ.ย.61) จะยังคงเติบโตดีกว่าช่วงไตรมาส1/60-61 ที่มีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาทเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารยังเติบโตเพิ่มขึ้นแม้จะไม่ถึงเป้าหมาย และได้รับผลกระทบจากการให้บริการเดินรถขัดข้องในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
ขณะที่ภาพรวมทั้งปี ตามปีงบประมาณ (เม.ย.61-มี.ค.62) มั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้ยังเติบโตได้ตามเป้าหมายโดยตั้งเป้าว่าผู้โดยสารจะเติบโต 4-5% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 700,000 เที่ยวคนต่อวัน ส่วนรายได้จากบริการเดินยังมั่นใจว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ 37,350-40,000 ล้านบาท เนื่องจากเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพิ่มขึ้น ซึ่งปลายปีนี้เติมเปิดเดินรถไฟฟ้าสีเขียวใต้ ช่วงสำโรง-สมุทรปราการอีก1สถานีในเดือนธันวาคม2561