ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.มาลีกรุ๊ป หรือ MALEE ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 12.80 บาท (ณ เวลา 10.50 บาท) 12.60 เพิ่มขึ้น 0.40 หรือ 3.28% มูลค่าซื้อขาย 6.74 ล้านบาท ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเมินแนวโน้มธุรกิจว่า คาดว่าสายการผลิตล่าสุดของบริษัท จะมีเสถียรภาพมากขึ้น และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นในไตรมาส 3/61 แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ยังไม่สดใสสำหรับตลาดน้ำผลไม้ในประเทศ และยอดขายน้ำมะพร้าวส่งออก เป็นปัจจัยหลักที่เรากังวล ทั้งนี้แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายลดลงอยู่ที่ 20 บาท
ด้านผู้บริหาร กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3-4/61 จะเริ่มเห็นยอดขายเข้ามาจากแผนการลงทุนที่วางไว้ โดยมั่นใจว่ารายได้ไตรมาสละไม่ต่ำกว่า 10% โดยสัดส่วนรายได้มาจากน้ำผลไม้ 35% น้ำมะพร้าว 15-20% นม ผลไม้กระป๋อง 10% ชากาแฟอีก 20% และอื่นๆ
ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทเปิดตัวบริษัทย่อย มาลี แอพพลายด์ ไซเอ็นซ์ จำกัด (เอ็มเอเอส) เพื่อต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ส่งสินค้า “วินติโค” (Vintico) นวัตกรรมน้ำส้มสายชูหมักจากน้ำมะพร้าว 100% ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพในแบบซูเปอร์ฟู้ดที่ปราศจากน้ำตาล ทั้งนี้ในช่วงปลายไตรมาส 3/61 จะนำไปจำหน่ายในต่างประเทศ เช่น อเมริกา, ยุโรป อาทิ เยอรมัน สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และกลุ่มประเทศในอาเซียน ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น
สำหรับบริษัทใหม่ เอ็มเอเอส คาดว่าโดยในแต่ละปีจะใช้งบวิจัยและพัฒนาประมาณ 30 ล้านบาท โดยจะมีรายได้เข้า MALEE ในช่วงไตรมาส4/61 แต่ยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนในการวิจัยและพัฒนาทั้งหมด โดยปัจจุบัน เอ็มเอเอส มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 ขวดต่อปี และมีนโยบายออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 ชนิดต่อปี
