จากบทความในสัปดาห์ก่อนๆ ที่เราวิเคราะห์ภาพรวมตลาดหุ้นไทยไว้ว่า หาก SET index กลับยืนเหนือ 1640 จุดได้ น่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่ายุติขาลง และกลับเข้าสู่การ Sideway ในกรอบ 1640 – 1680 จุด หากไม่มีข่าวลบเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามคาด
โดยตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ทยอยรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าที่ Consensus คาด (เว้นเพียง TMB ที่แย่กว่าคาด) ทำให้นักลงทุนเริ่มเกิดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยใน 2H61 เพราะโดยปกติผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์เป็นเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศเริ่มสงบลง ประเด็นสงครามการค้าแม้จะยังไม่มีข้อสรุปการเจรจาตกลงกัน โดยเฉพาะระหว่าง สหรัฐฯ-จีน แต่ก็ไม่ได้มีข่าวลบเข้ามาเพิ่มเติม
สำหรับประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามในสัปดาห์นี้ที่น่าสนใจคือ i) ผลประกอบการไตรมาส 2/2561ของกลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคาร เริ่มเปิดฉากที่ SCC ที่จะรายงานวันที่ 25 ก.ค. และ ii) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป รวมทั้งความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งในสัปดาห์นี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ
การฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยเราแนะนำให้พิจารณาที่แนวต้านสำคัญของ SET index 1680 จุด หากสามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ เราประเมินว่าจะเป็นการกลับเข้าสู่แนวโน้มการ Sideway Up ได้ โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวถัดไปหากดัชนีกลับยืนเหนือ 1680 จุดได้ คือ 1680 – 1720 จุด แต่หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1680 จุดได้ ประเมินจะแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1640 – 1680 จุด
เราประเมินว่าเหตุผลที่หุ้นใหญ่มีการปรับตัวขึ้นแรงดึงดัชนีขึ้นนี้เป็นผลจาก i) นักลงทุนสถาบันในประเทศเข้าซื้อเพื่อต้องการเกาะดัชนี (ทำ NAV ให้ทันกับ Benchmark ซึ่งก็คือ SET index) และ ii) แรงหนุนจากเครื่องมือทางการเงินต่างๆ เช่น ธุรกิจบล๊อกเทรด / Derivative warrant เป็นต้น ซึ่งมุ่งเน้นให้สามารถทำธุรกิจกรรมได้เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ดังนั้นเราประเมิน เมื่อ นักลงทุนสถาบันเก็บหุ้นใหญ่ครบ สามารถเกาะดัชนีได้แล้ว มีโอกาสที่จะชะลอการเข้าซื้อ ซึ่งจะทำให้ดัชนีมีโอกาสที่จะพักตัว Sideway ขณะที่ธุรกิจบล๊อกเทรด / Derivative warrant นั้นคาดว่าเป็นการเข้าเก็งกำไรสั้นเท่านั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ตลาดกลับมาอยู่ในโหมดการ Sideway และสามารถเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัวได้
ในภาวะตลาดฯผันผวน และราคาหุ้นปรับตัวลงแรงทั้งตลาด ทำให้ Valuation หุ้นหลายตัวปรับลงมาจนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ แต่เราเชื่อว่าหุ้นที่แนวโน้มกำไร 2Q61 จะเติบโต YoY, QoQ และต่างชาติถือครองหุ้นไม่มากนัก มีโอกาสที่จะ Outperform ตลาดฯได้ เช่น กลุ่มค้าปลีก COM7 / กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี BANPU, SGP / หุ้นกลาง – เล็ก SIMAT, ASAP เป็นต้น และนักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินที่ยังไม่แพง เช่น BBL, TISCO เป็นต้น
โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย
บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)