ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เออีซี โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า คาด SET Index จะแกว่งตัวระหว่าง 1,665-1,685 จุด โดยมองดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้แต่ยังต้องระวังแรงขายทำกำไรระหว่างทาง หลังบรรยากาศลงทุนยังเน้นเล่นสั้นทำรอบ แม้สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้หลังได้รับ Sentiment เชิงบวกจากผลประกอบการของกลุ่ม ธพ.ที่ออกมาดีเกินคาด อีกทั้งราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับขึ้นหลังซาอุฯ จะปรับลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. เต่อย่างไรก็ดีการปรับขึ้นแรงของดัชนียังมีความเป็นไปได้น้อย หลังนักลงทุนยังจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ ลงทุนหุ้นรายตัว ได้แก่ หุ้นกลุ่มธพ. ที่กำไรโตดี/ราคาหุ้นยัง Laggard : KBANK, BBL,SCB และ หุ้นที่จ่าย Div. Yield สูงเกินปีละ 5% : KKP, TTW, MC, SMPC
ทางด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) โดย ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้ามีแนวโน้มอยู่ในแดนบวกโดยมีปัจจัยหนุนจาก การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร โดยนายกรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติงบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท ในการพัฒนา รถไฟทางคู่ และขยายสนามบิน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ โดยมีแนวต้าน 1,685 จุด และมีแนวรับที่ 1,665 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรโดยจำกัดพอร์ตที่ 40% จับตามองแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2561 ของแต่ละบริษัทที่จะทยอยประกาศผลการดำเนินการออกมา โดยมีหุ้นเด่นได้แก่ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส หรือ IVL ซึ่งมีแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2561 ที่เชื่อว่าจะออกมาอย่างโดดเด่น แนะนำซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 62 บาท