5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้น ภาคเช้า

173

อันดับที่ 1 CK ตุนงานในมือพุ่ง 6.63 หมื่น ลบ. ลุยชิงเค้กประมูลรถไฟฟ้า

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ช.การช่าง หรือ CK ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทย โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทสามารถเซ็นสัญญางานรับเหมาก่อสร้างเข้ามาเพิ่ม 1,463 ล้านบาท จากเมื่อช่วงต้นปีเซ็นสัญญาไปแล้ว 3,277 ล้านบาท ส่งผลให้มียอดงานในมือ (Backlog) เป็น 66,350 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปี 2561-2562

ส่วนที่เหลือของปีนี้เตรียมเข้าประมูลงานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รถไฟทางคู่เฟส 2 มูลค่ารวมกว่า 4 แสนล้านบาท มีโอกาสได้งานเข้ามาเพิ่มหนุนการเติบโตต่อเนื่อง โดยการประมูลงานบริษัทจะรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นไว้ที่ 8%

อันดับที่ 2 BIG ลั่น Q2 ถึงเวลาผงาด มั่นใจรายได้ทั้งปีโตตามนัด 10-15%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า  บมจ. บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น หรือ BIG  โดยนายชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ คาดว่าภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 2/2561 จะมีทิศทางที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวจากปีก่อนและสินค้าใหม่ที่ทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าภาพรวมผลประกอบการในปี 2561 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตได้ 10 – 15% จากปีก่อนที่ 6,043.10 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะเน้นขยายธุรกิจ Printing โดยเฉพาะการขยายสาขาเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันมีสาขาในเครือรวม 276 แห่ง รวมทั้งการเพิ่มธุรกิจ Printing ในร้าน BIG Camera ทุกสาขาด้วย

อันดับที่ 3 บล.เออีซี ให้SET วันนี้แกว่ง1,665-1,685 จุด  หุ้นเด่น KBANK, BBL,SCB,KKP, TTW, MC, SMPC

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เออีซี  โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า คาด SET Index จะแกว่งตัวระหว่าง 1,665-1,685 จุด โดยมองดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้แต่ยังต้องระวังแรงขายทำกำไรระหว่างทาง หลังบรรยากาศลงทุนยังเน้นเล่นสั้นทำรอบ แม้สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้หลังได้รับ Sentiment เชิงบวกจากผลประกอบการของกลุ่ม ธพ.ที่ออกมาดีเกินคาด อีกทั้งราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับขึ้นหลังซาอุฯ จะปรับลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. เต่อย่างไรก็ดีการปรับขึ้นแรงของดัชนียังมีความเป็นไปได้น้อย หลังนักลงทุนยังจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ ลงทุนหุ้นรายตัว ได้แก่ หุ้นกลุ่มธพ. ที่กำไรโตดี/ราคาหุ้นยัง Laggard : KBANK, BBL,SCB  และ หุ้นที่จ่าย Div. Yield สูงเกินปีละ 5% : KKP, TTW, MC, SMPC

อันดับที่ 4 WICE คาดงบ Q2 ผลงานโตแรง โบรกฯ เคาะซื้อ 6.05 บ.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ หรือ WICE การซื้อขายภาคเช้าปรับตัวขึ้นสูงสุด 4.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 7.16ล้านบาท

นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาด WICE รายงานผลกำไรไตรมาส 2/61 ที่ 27 ล้านบาท เติบโต 27% จากไตรมาสแรก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษกดดัน ส่วนอัตรากำไรยังขยายตัวได้ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเริ่มรับรู้รายได้จาก UWT เต็มไตรมาส และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้วอลุ่มจากสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็คทรอนิกส์ เพิ่มขึ้นโดดเด่น ส่งผลให้รายได้รวม คาดขยายตัว 19% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น คาดเติบโต 23.5% จากไตรมาสก่อน 22.0% ขณะเดียวกัน ราคาหุ้น WICE อ่อนตัวลงมาซื้อขายที่ P/E เพียง 18.5 เท่า และให้ Dividend Yield น่าพอใจ 3.6% มองเป็นโอกาส “ซื้อ” สะสม ราคาเหมาะสม 6.05 บาท

อันดับที่ 5 SGP งบ Q2 ฉายแววเด่นรับอานิสงส์แก๊สขาขึ้น กูรูชี้เป้า 13.10 บ.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ หรือ SGP โดยนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ไว้ที่ 600 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 100 .77 ล้านบาท เนื่องจากคาดแนวโน้มราคาแก็สไตรมาส 2/61 เป็นขาขึ้น เติบโต 16.7%  คาด SGP จะสามารถทำกำไรได้จากส่วนต่างราคา ขณะเดียวกันบริษัทมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดีขึ้น โดยมีวงจรเงินสด (Cash cycle) ที่สั้นขึ้น ทำให้ SGP ยังรักษากำไรได้ราว 100 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน SGP ถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ประเทศพม่า กำลังการผลิตติดตั้ง 230 MW ในสัดส่วน 36.1% ประเมินว่า SGP จะได้ส่วนแบ่งกำไรได้เฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยชดเชยความผันผวนของธุรกิจแก็ส นอกจากนี้ ประเมินอนาคตยังมี Upside จากการเข้าลงทุนธุรกิจ LNG ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (จีน) คาดจะหนุนการเติบโตในอนาคต จากดีมานด์ LNG แทนการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น  แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 13.10 บาท