มิติหุ้น-ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TMB หรือ ธนาคารทหารไทย ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องภายหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2561 ออกมาไม่เป็นไปตามคาดที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ส่งผลให้ราคาปรับตัวลงนิวโลว์ในรอบ 13 เดือนอิงจากราคาปิดวันก่อนหน้า(23 ก.ค.61) ที่ 2.18 บาท/หุ้น ส่วนราคาล่าสุด(12.30 น.)อยู่ที่ 2.22 บาท บวก 0.04 บาท หรือ+1.83 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.38 ล้านบาท
ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู็อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า TMB ยังมีปัจจัยกดดันจากสงครามค่าธรรมเนียมหรือ ค่าฟีที่ทางบริษัท ได้เป็นผู้นำในการปรับลดค่าธรรมเนียมฟรีรายแรกๆ จนส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 2/251 ออกมาต่ำกว่าคาด (กำไรสุทธิไตรมาส2/61 อยู่ที่ 2,026 ลบ. ) แต่สิ่งที่น่ากังวลสำหรับ TMB ซึ่งต่างจากแบงก์อื่นคือไม่มีรายได้ค่าธรรมเนียมตัวอื่นๆมาทดแทน จึงทำให้ TMB มีกำไรลดลงกว่าแบงก์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังประเมินราคาเป้าหมายปี 2561 ไว้ที่ 2.58 บาท/หุ้น หากเทียบกับราคา ณ ที่ปรับลงมาใกล้เคียงกับราคาตามมูลค่าทางบัญชี(P/BV) 2.1 บาท จึงแนะนำให้ทยอยซื้อได้ เพื่อรอรับการฟื้นตัวของกลุ่มแบงก์ทั้งกลุ่มรวม TMB หากประเมินจากผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มแบงก์มีสัญญาณที่ดี ทั้ง NPL และ Loan Growth ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มมีการประมูลงานมูลค่าลงทุนขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ก็จะยิ่งช่วยสนับสนุนกลุ่มแบงก์ให้เติบโตต่อไปได้
ด้านบทวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไร TMB ลง จากการปรับลดการเติบโตของสินเชื่อโตลงจากเดิม 9 % เหลือ 6 % และปรับลด NIM ลงจาก 3.1 % เหลือ 3.05 % และปรับลดรายได้ค่าธรรมเนียมลงจาก 15 % เหลือ 14 % ซึ่งเป็นผลจากกำไรไตรมาส2/2561 ออกมาน่าผิดหวัง โดยเฉพาะรายได้จากธรรมเนียมจากธุรกิจ บลจ.จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการขายกองทุนได้ดี เนื่องจากมีการขายกองทุนใหม่กระจุกตัวเกินไป ซึ่งสะท้อนถึง Performance ของกองทุนไม่ดีด้วย นอกจากนี้ยังได้ปรับเพิ่ม Credit cost จาก 1.4 % เป็น 1.45 % จะได้กำไรสุทธิที่ 9.2 พันล้านบาท ลดลง จากประมาณการเดิม 9 % และมีกำไรเติบโตจากปีก่อนเพียง 5.4 % จึงแนะนำ เปลี่ยนตัวลงทุน โดยราคาเป้าหมายปรับลงมาอยู่ที่ 2.57 บาท แม้ราคายังมี upside 18% แต่คาดกำไรปีนี้โตน้อย ยังไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ด้วยกัน
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ฝ่ายวิจับมี มุมมองเป็นลบ ต่อหุ้นTMB แม้ว่า 1. TMB จะคงเป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ แต่ผลกาสรดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาและแนวโน้มช่วงครึ่งหลังคาดว่าจะไม่เป็นไปตามเป้าหลายประเด็น 2.เราจึงปรับลดสมมติฐาน การขยายตัวของสินเชื่อ , NIM และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ส่งผลให้ ประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี2561-2562 ลดลง 6.3 % และ 5.5 % ตามลำดับ จึงได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 2.30 บาท /หุ้นพร้อมปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย” เพื่อสะท้อนต่อแนวโน้มกำไร และเงินปันผลปีนี้ไม่เด่น
www.mitihoon.com