มิติหุ้น-บมจ.ไทยออยล์ แจ้งว่า กำไรสุทธิไตรมาส2/61 ทืี่ 4,794.75 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 2.35 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 48 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3,249 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มไทยออยล์มีกำไรข้ันต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน (Accounting GIM) อยู่ที่ 10.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และด้วยปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตของกลุ่มอยู่ที่ 299 พันบาร์เรลต่อวัน ทำให้กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขายและ EBITDA จำนวน 96,710 ล้านบาท และ 9,144 ล้านบาท ตามลำดับ เมื่อหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ
lส่วนรายได้จากการขาย 96,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,093 ล้านบาท ตามราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 5.9 เหรียญ
สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 2.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยปรับตัวลดลง โดยส่วนใหญ่มาจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินกับราคาน้ำมันดิบดูไบที่ได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินล้นตลาด หลังโรงกลั่นนำ้มันทั่วโลกเพิ่มอัตราการกลั่น ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินถูกจำกัดหลังราคาขายปลีกปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 61 ในรอบ 6 เดือน กลุ่มไทยออยล์มีกำไรขั้นต้น จากการผลิตของกลุ่มรวม ผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน (Accounting GIM) อยู่ที่ 9.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และด้วยปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตของกลุ่มอยู่ที่ 306 พันบาร์เรลต่อวันทำให้กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขายและ EBITDA จำนวน 188,328 ล้านบาท และ 16,504 ล้านบาท ตามลำดับ เมื่อหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิทำให้ผลการดำเนินงานประจำปี 2561 รอบ 6 เดือน กลุ่มไทยออยล์มีกำไรสุทธิ 10,403 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 5.10 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตามด้านบทวิเคราะห์บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า TOP ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ที่ 4.8 พันล้านบาท (-14% QoQ, +48% YoY) ใกล้เคียงคาด แต่กำไรปกติอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (-50% QoQ, -63% YoY) ต่ำกว่าคาดมาก เราคงคำแนะนำ “ขาย”
www.mitihoon.com