อันดับที่ 1 GUNKUL มั่นใจรายได้โต 30% ตามเป้า จ่ายไฟ 370 MW หนุนกำไรนิวไฮ เร่งเครื่องลงทุนเพิ่ม
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL ผู้ให้บริการติดตั้งระบบวิศวกรรมไฟฟ้า และผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยนางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 30% เทียบกับปี 2560 ที่มีรายได้ 5,124 ล้านบาทขณะที่กำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) เนื่องจากปีนี้ได้จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเข้ามาประมาณ 190 เมกะวัตต์ โดยรวมโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น 50 เมกะวัตต์ที่จะ COD ในไตรมาส 4/61 ด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตที่ COD รวมทั้งหมด 370 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตในมือหรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ราว 550 เมกะวัตต์
อันดับที่ 2 ORI โชว์ กำไรQ2พุ่งกว่า 300 %รับรู้กำไรพิเศษ ส่วนครึ่งหลังลุยเปิดโครงการใหม่เพียบ กูรูแนะซื้อราคาเป้าหมาย24.60 บาท/หุ้น
มิติหุ้น-ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ORI หรือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บวกกว่า 3 % ที่ 19.80 บาท/หุ้น ส่วนราคาล่าสุด(15.12 น.) ราคาอยู่ที่ 19.70 บาท/ หุ้น บวก 0.50 บาท หรือ +2.6 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 187.45 ล้านบาท ภายหลังบริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2561 ที่ 1,019.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327 % จากไตรมาส 2/2560 ที่มีกำไร 238.73 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 6 เดือนORI มีกำไรสุทธิ 1,508.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267 % จากงวด 6 เดือนแรก ปี 2560 ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ORI แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 24.6 บาท/หุ้น
อันดับที่ 3 AOT อวดกำไร Q3 โต 19% ผลดีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
มิติหุ้น-AOT หรือ บมจ.ท่าอากาศยานไทย แจ้งผลการดำเนินงาน กำไรไตรมาส3/61 ที่ 6,434.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.19 % จากไตรมาส3/60 ที่มีกำไร 5,398.18 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจํานวนเที่ยวบินและจํานวนผู้โดยสารส่งผลให้รายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 1,357.71ล้านบาท หรือร้อยละ 10.05จากการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 772.57ล้านบาท หรือร้อยละ10.21และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 585.14ล้านบาท หรือ ร้ออยละ9.86 จึงส่งผลให้งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 19,923.44 ล้านบาท 17.93 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้านบทวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า AOT กำไรปกติเป็นไปตามคาด 6,392 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาสก่อนหน้าเพราะฤดูกาลจึงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 73 บาท/หุ้น
อันดับที่ 4 CENTEL กำไรQ2หดตัว รับช่วงโลว์ซีซั่นแต่กูรูมั่นใจไตรมาส4 ฟื้น
มิติหุ้น- CENTEL หรือ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา แจ้งกำไรไตรมาส2/61 ที่372 ล้านบาท ลดลง 6.66 % จากช่วงเดียวกันของปีที่มีกำไร 398 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 1,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6.22 % เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 19.5 ล้านคนเติบโต 12.5 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปจะลดลงเล็กน้อยประมาณ 1.9 % แต่ยังได้รับชดเชยจากนักลงทุนเอเชียโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่รายได้รวม CENTEL อยู่ที่ 5,191.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โยเพิ่มขึ้นทั้งส่วนธุรกิจโรงแรมและอาหาร แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้อาหารราว 59 % ส่วนธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้ราว 41%ส่วนแนวโน้มไตรมาส3/2561 ยังไม่เด่นเนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียคาดว่ายังชะลอ แต่จะกลับมาโตเด่นอีกครั้งใน 4Q18เป็นต้นไปจาก High Season ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 54 บาท
อันดับที่ 5 เจาะ 3 หุ้นกระทบค่าเงินลีราตุรกี CPF-FPI-IVL
มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 3 แห่ง ที่มีธุรกิจในตุรกีหรือเกี่ยวข้องกับค่าเงินลีร่าคือ CPF, FPI, IVL แต่ผลกระทบจำกัดมากนำโดย CPF หรือ บมจ.บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหารผ็นำธุรกิจไก่ในตุรกีมีหนี้เป็นเงินสกุลลีราราว US$9 ล้าน น่าจะทำให้ธุรกิจในตุรกีกลับมาขาดทุนในไตรมาส 3/2561 แต่ธุรกิจในตุรกีคิดเป็นเพียง 3% ของรายได้รวม ต่อมาคือ IVL หรือ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส ซึ่งมีโรงงานผลิต PET 2 โรงใรอิสตันบูล กำลังผลิต 256,000 ตัน/ปี คิดเป็น 5% ของกำลังการผลิต PET ทั้งหมด แต่คิดเป็น 3% ของรายได้รวมทั้งบริษัท และ FPI หรือฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ มียอดส่งออกไปตุรกี แต่ไม่ถึง 1% ของยอดขายรวม