“ศรีสวัสด์”ไตรมาส2/61 กำไร 665 ล้าน ครึ่งปีแรกพอร์ตลูกหนี้สุทธิโตกว่า 24%

94

มิติหุ้น-SAWAD โชว์งบไตรมาส 2/2561 พอร์ตลูกหนี้สุทธิครึ่งปีแรกเติบโต 24% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนตัวเลขเอ็นพีแอลสิ้นสุด 30 มิ.ย 2561 ลดลงเหลือประมาณ 4.7% จากสิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ประมาณ 8%

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยฝ่ายกลยุทธ์องค์กร  บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า งบการเงินรวมของบริษัทในไตรมาส2/2561  ผลการดำเนินงานยังเติบโตต่อเนื่องโดยบริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ย 1,384.45  เพิ่มขึ้น 11.03%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย  1,246.88 ล้านบาท  ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส2/2561 อยู่ที่ 1,873.90 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3%  จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ราวม 1,818.11 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อในไตรมาส 2/2561

โดยงบการเงินรวมงวดไตรมาส2/2561 มีกำไรสุทธิ 665 ล้านบาทลดลง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ687.30 ล้านบาทสาเหตุมาจากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มความรอบคอบในการทำธุรกิจ และ สอดคล้องการการเติบโตของลูกหนี้ของกลุ่มบริษัท

สำหรับงวด 6 เดือน ปี 2561 มีรายได้จากดอกเบี้ย 2,628.11 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.68 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560  ที่มีรายได้ดอกเบี้ย 2,440.55 ล้านบาท  ขณะที่มีรายได้รวม 3,618.02 ล้านบาทลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,689.61 ล้านบาท   ซึงสาเหตุที่รายได้รวมลดลงเนื่องจากงวดเดียวกันของปี 2560 มีการบันทึกรายการพิเศษจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในส่วนที่เกี่ยวกับการได้มาบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ หรือ BFIT ซึ่งก็เป็นผลให้กำไรสุทธิงวด  6 เดือนแรกปี 2561 ลดลงประมาณ 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560

นางสาวธิดา  กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินในไตรมาส2/2561  สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทยังมีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตัวเลขลูกหนี้สุทธิที่เพิ่มขึ้นกว่า 24% จากสิ้นสุด 6 เดือนแรกของปี 2560 ที่มีลูกหนี้สุทธิ 19,766.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 24,510.98 ล้านบาท  แต่เมื่อเปรียบเทียบจากไตรมาส 1/2561 ลูกหนี้สุทธิจะเติบโต 5 %

“ไตรมาส2/2561 ลูกหนี้สุทธิจะเติบโตค่อนข้างมากเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้าอย่างไรก็ตาม กรณีลูก NPL ที่มีปัญหาในไตรมาส 1/2561 ได้มาปิดบัญชีไปทำให้ลูกหนี้สุทธิในไตรมาสสองเติบโตเพียง 5%  แต่หากไม่นับรวมการปิดบัญชีของลูกหนี้จำนวนดังกล่าว  พอร์ตลูกหนี้สุทธิเมื่อเทียบรายไตรมาสจะเติบโตถึง 8% “นางสาวธิดากล่าว

สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล  สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561 ได้ปรับลดลงมาเหลือที่ 4.7% จากสิ้นสุดไตรมาส 1/2561 ที่มีเอ็นพีแอลประมาณ 8% หลังจากที่ลูกหนี้เอสเอ็มอีรายหนึ่งมาปิดบัญชี  ซึ่งทำให้ภาพรวมเอ็นพีแอลของบริษัทกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

www.mitihoon.com