มิติหุ้น-บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ หรือ QTC ลุ้นครึ่งปีหลังภาครัฐทยอยเปิดประมูลงานใหม่หลังจากเลื่อนมานาน พร้อมตั้งเป้าคว้างานให้ได้มากที่สุด หลังจากครึ่งปีแรก 2561 คว้า กฟภ. ลูกค้าญี่ปุ่น แล้ว รวม 200 ล้านบาท หนุน Backlog ในมือรวมกว่า 500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ยาวถึงปี 62
ด้านผู้บริหาร “พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน” เผยลุยทำการตลาดของหม้อแปลง AMORPHOUS ในต่างประเทศมากขึ้น นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย –มาเลเซีย ส่วนผลการดำเนินงานส่งสัญญาฟื้นตัวที่ดี โดยไตรมาส 2/2561 มีรายได้รวม 281.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.73 ล้านบาท และมีผลขาดทุนเพียง 13.04 ล้านบาท ลดลง 43.38% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปี 60 จากการรับรู้รายได้การขายหม้อแปลงไฟฟ้า-ธุรกิจพลังงานเพิ่มขึ้น
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2561 คาดว่าจะมีการเปิดประมูลหม้อแปลงไฟฟ้าของหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีการเปิดประมูลล่าช้าออกมา มูลค่าการประมูลกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะยื่นประมูลเพื่อคว้างานให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มยอดขายหม้อแปลงในครึ่งปีหลังของปีนี้
ประกอบกับมีการทำการตลาดการขายหม้อแปลง AMORPHOUS ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ ซึ่งมีผลตอบรับทีดีเพิ่มมากขึ้น เสริมทัพด้วยการหาช่องทางในการจัดจำหน่ายใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็ว และการหาตลาดใหม่ในต่างประเทศ ด้วยคุณภาพของหม้อแปลงไฟฟ้าทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งรองลงมาจากออสเตเรียและมาเลเซีย QTC ยังคงเดินหน้า อย่างไม่หยุดยั้ง ในการหาตลาดที่มีศักยภาพในการสั่งซื้อ เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงาน ภายหลังการเข้าไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ มีรายได้ประมาณปีละ 140 ล้านบาท เสริมเข้ามาจากเดิมที่มีรายได้จากธุรกิจการผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงเพียงอย่างเดียว
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาการลงทุนโครงการในอนาคต เช่น โครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในต่างประเทศและพลังงานน้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาในการศึกษาเพื่อความเหมาะสม และความมั่นคงทางธุรกิจของบริษัทฯ ในระยะยาว
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 2/2561 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 281.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.73 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 244.00 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น15.46% และมีขาดทุนสุทธิ จำนวน 13.04 ล้านบาท ลดลง 43.38 % เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดสุทธิ 23.03 ล้านบาท
www.mitihoon.com