ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.น้ำตาลขอนแก่น หรือ KSL เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานประจําไตรมาสที่2/2561 (ก.พ. 61 – เม.ย 61) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,586 ล้านบาท ซึ่งลดลง 23% เมื่อเทียบกับผลประกอบการงวดเดียวกันของปีก่อนทีมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,638 ล้านบาท
เนื่องจากราคาน้ำตาลโลกที่มีการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปี โดยลงมาที่ระดับ 13-14 เซนต์ต่อปอนด์ จากเดิมอยู่ที่ระดับ 20 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะเดียวกัน ผลผลิตน้ำตาลจากทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการลอยตัวของราคาขายน้ำตาลในประเทศที่เป็นไปตามทิศทางเดียวกับราคาน้ำตาลตลาดโลก จึงส่งผลให้บริษัทมีราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยในไตรมาสที่ 2/2561 ลดลง 31% จาก 19,735 บาทต่อตัน เป็น 13,540 บาทต่อตัน และมีปริมาณขายน้ำตาลลดลง 9% จาก 177,461 ตัน เป็น 160,774 ตัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2/2561 เป็นฤดูกาลปิดหีบอ้อยของบริษัท ซึ่งมีปริมาณอ้อยเข้าหีบสูงกว่าปีก่อน โดยมีจำนวนอ้อยเข้าหีบ 11.03 ล้านตันอ้อย จากเดิม 6.83 ล้านตันอ้อย เพิมขึ้น 61% จึงส่งผลให้อัตราการใช้กําลังการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการผลิตลง ส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 26% เป็น 37% ทั้งนี้บริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2561 (ก.พ. 61 – เม.ย 61) อยู่ที่ 688 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบผลประกอบการงวดเดียวกันของปีก่อนทีมีกําไรสุทธิ 640 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้ (พ.ย.60-ต.ค.61) มีแนวโน้มเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน (พ.ย.59-ต.ค.60) ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 19,140.23 ล้านบาท แม้ว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกปีนี้จะเฉลี่ยที่ระดับ 14-15 เซนต่อปอนด์ต่ำกว่าปี 2560 ที่เฉลี่ยในระดับ 20-24 เซนต่อปอนด์ ขณะที่ราคาในปัจจุบันอยู่ในระดับ 11 เซนต่อปอนด์ ปรับตัวลดลงในรอบหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม ขณะเดียวกัน ปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีวัตถุดิบเหลือทิ้งสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยหนุนอย่างหนึ่งของรายได้อย่างมีนัยสำคัญ
www.mitihoon.com