หุ้นไทยยังคงโดนหางเลขวิกฤติค่าเงินลีราตุรกีอ่อนยวบ จากผลพวงสงครามการค้าที่มีสหรัฐฯ ก่อชนวน
สหรัฐฯ-จีนเปิดศึกน้ำลายรายวัน ส่งผลกระทบต่อตลาดไม่มาก เสมือนว่านักลงทุนชินชากับการขู่กันไปขู่กันมาด้วยการจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าในมูลค่าสูง แต่พอสหรัฐขู่จะเปิดฉากเก็บภาษีเหล็กตุรกี จาก 25% เป็น 50% และอลูมิเนียม จาก 10% เป็น 20% เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ฟาดเปรี้ยงลงไปตรงจุดสำคัญของเศรษฐกิจโลก
ลำพังตุรกีไม่เท่าไหร่ เพราะการค้า การขาย การลงทุนกับประเทศต่างๆ ในโลกนี้ มีไม่มาก แต่ “หลายประเทศ” โดยเฉพาะในยุโรป “ปล่อยเงินกู้” ให้กับตุรกีค่อนข้างมาก เลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนหางเลข แม้จำนวนหนี้ที่จะได้รับจากตุรกีเพิ่มขึ้น แต่โอกาสที่ตุรกีอาจจะเบี้ยวหนี้ก็มีอยู่สูง
ส่งผลต่อความเชื่อมั่นค่าเงินและเศรษฐกิจตุรกี ทำให้ค่าเงินตุรกีลดลง 45% เมื่อเทียบกับต้นปี และส่งผลให้ภาระการชำระหนี้ของตุรกีจะเพิ่มขึ้น
โดยหนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน คิดเป็น 70% ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด หรือมูลค่า 3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (52.6% ของ GDP) ส่วนหนึ่งเป็นการกู้ยืมจากธนาคารของยุโรป โดยเป็นธนาคารสเปนและฝรั่งเศส ประมาณ 8.2 และ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ และเป็นหนี้ต่างประเทศระยะสั้นภาคเอกชน (ครบกำหนดชำระหนี้น้อยกว่า 1 ปี) มูลค่า 9.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ความกังวลที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ตุรกีมีปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการคลัง (twin deficit) ที่ 5.5% และ 3.1% ตามลำดับ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานอยู่ในระดับที่สูงถึง 11.1% และ 11.2% ในปี 2560 โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า ในปี 2561 GDP ตุรกีจะขยายตัว 4.4% ชะลอลงจาก 7.0% ในปีก่อนหน้า
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนวันอังคารกลับมาฟื้นตัวค่อนข้างแรง หลังจากร่วงหนักในช่วง 2 วันก่อน แต่หุ้นไทยและตลาดในเอเชีย ยังไม่ฟื้น มีแต่จะร่วงหนักลงไปอีก เนื่องจากมีปัจจัยลบเพิ่มเข้ามา นั่นคือ “ค่าเงินที่ผันผวนค่อนข้างมาก” จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ฉุดให้เงินสกุลอื่นๆ ที่ผูกโยงกับดอลลาร์อ่อนค่าและผันผวน บวกกับแรงขายหุ้นในตลาดเอเชีย รวมทั้งไทย ยิ่งเป็นแรงฉุดให้หุ้นยังไม่ฟื้น
ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดวันพุธที่ 15 ส.ค.61 ที่ระดับ 1,676.29 จุด ลดลง 19.06 จุด มูลค่าซื้อขาย 53,843.76 ล้านบาท
ลุ้นต่อกันว่า หลังจากบริษัทจดทะเบียนประกาศงบไตรมาส 2/2561 ไปแล้ว แรงขายหุ้นไทยจะสะเด็ดน้ำหรือไม่ และจะฟื้นตัวได้เมื่อไหร่
“บิ๊กเซ็ต”