เริ่มจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้าง

106

ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์มีข่าว “ลบสลับบวก” ตลอดทั้งสัปดาห์ อาทิเช่น

i) เรื่องความขัดแย่งคู่กรณีใหม่ระหว่าง สหรัฐฯ – ตุรกีเข้ามา ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศตุรกีเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ทำให้เกิดแรงเทขายค่าเงินลีร่า ของตุรกี และเกิดความกังวลลามมายังค่าเงินประเทศเกิดใหม่อื่นๆ และเป็น Sentiment ลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ดีปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาความกังวลดังกล่าวคลี่คลายหลัง ประเทศกาตาร์ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้านการเงิน ทำให้ค่าเงินลีร่า ของตุรกี เริ่มนิ่งขึ้น

ii) สงครามการค้าระหว่างจีน – สหรัฐฯที่ยังไม่ได้ข้อสรุป แม้ว่าจะมีการพยายามเจรจากัน (เป็นการส่งเจ้าหน้าที่ระดับทำงาน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ระดับบริหารของทั้ง 2 ประเทศ มาเจรจา) ทำให้เราเชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะจึงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ขณะเดียวกัน เราประเมินว่าอาจจะมีข่าว “ลบสลับบวก” ออกมาได้ตลอดสำหรับประเด็นนี้ จนกว่าจะถึงเส้นตายการบังคับใช้มาตรการทางภาษีจริงในช่วงสิ้นเดือนนี้

ทั้ง 2 ประเด็นข้างต้น ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของนักลงทุนต่อการรายงานผลการดำเนินงาน 2Q61 ของบริษัทจดทะเบียนไทยช่วงโค้งสุดท้ายที่ออกมาต่ำกว่า Consensus คาดราว 7% ไปได้ในระดับนึง (คำนวณเฉพาะหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์) ซึ่งเราประเมินว่าในขณะที่แม้ Consensus จะยังประมาณการฯกำไรปี 2561 ไว้ใกล้เคียงเดิม แต่ต้องจับตาดูในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ส.ค. ที่จะเป็นช่วงของการประชุมนักวิเคราะห์เพื่อชี้แจงผลการดำเนินงาน 2Q61 และแนวโน้ม 2H61 ของบริษัทจดทะเบียนแต่ละแห่ง ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะยังคงประมาณการฯไว้ตามเดิม หรือจะมีการปรับลดประมาณการฯในภาพรวมของตลาดฯ อย่างไรก็ดี ข่าวดีที่อาจจะออกมาในสัปดาห์นี้ (20 – 24 ส.ค.) ซึ่งคาดว่าจะช่วยค้ำยันตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ปัจจัยต่างประเทศยังไม่นิ่งนั้น ก็คือ การรายงานตัวเลข GDP 2Q61 ของไทย ที่ฝ่ายวิจัยฯคาดว่าจะเติบโตราว 5% (เทียบกับ 1Q61 ที่โต 4.8% และ Consensus คาด GDP 2Q61 ไว้ที่เพียง 4.4%)

เมื่อสรุปรวมปัจจัยต่างๆข้างต้นจะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ข้างหน้ายังคงมีโอกาสผันผวนได้ตลอดจนกว่าข้อมูลข่าวสารต่างๆจะเริ่มมีความชัดเจนมากกว่านี้ เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในสัปดาห์นี้ไว้ แนวรับ 1680 จุด และถัดไป 1660 จุด / แนวต้าน 1700 จุด และถัดไป 1720 จุด

เราแนะนำจังหวะตลาดผันผวน ลบสลับบวก จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีกำไรเติบโต / มีสตอรี่การลงทุนที่ชัดเจน ในช่วงที่ตลาดย่อตัวลงมา กลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ i) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (กำไรพ้นจุดต่ำสุด + ดอกเบี้ยขาขึ้น) KBANK, BBL, SCB, KTB / ii) กลุ่มค้าปลีก (การบริโภคในประเทศฟื้น + ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง) CPN, COM7 / iii) กลุ่มนิคมฯ (ธีม EEC) AMATA, WHA / iv) กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี (ราคาพลังงานยืนสูง + Spread บางชนิดยืนสูง) SGP, IVL, BANPU เป็นต้น

โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ผู้จัดการฝ่ายวิจัย

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)