ASEFA เผยครึ่งปีหลังฤดูกาลไฮซีซั่น มุ่งขยายงานบริการด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องรองรับโครงการเมกะโปรเจคภาครัฐและเอกชน

94

มิติหุน-ASEFA เดินหน้าร่วมลงทุนกับกลุ่มพันธมิตรใหม่ๆ รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์และงานบริการแบบครบวงจร ที่มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น โดยมีแผนการเข้าร่วมประมูลเสนองานโครงการเมกะโปรเจค ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีงานที่รอส่งมอบกว่า 2,057 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่ายังมีสัญญาณและแนวโน้มการเติบโตที่ดี 
นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด  (มหาชน) หรือ ASEFA   ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ระบบกระจาย ส่งจ่าย  การบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าและการอนุรักษ์พลังงาน  เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในครึ่งปีแรกของปี 2561  และแนวโน้มของบริษัทในครึ่งปีหลัง  ซึ่งปัจจุบันมีงานที่รอส่งมอบกว่า 2,057 ล้านบาท
ทั้งนี้ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2561 คาดว่าแนวโน้มจะดีกว่าครึ่งปีแรก  เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ  โดยปัจจุบันบริษัท กำลังดำเนินการขยายตลาดและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักและงานบริการหลังการขายและดูแลบำรุงรักษาอย่างครบวงจร  รวมทั้งปรับปรุงระบบเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาระบบงานและบุคลากร อีกทั้งยังเดินหน้ามุ่งสร้างความสัมพันธ์เพื่อขยายงานกับกลุ่มพันธมิตร  เพื่อตอบสนองความต้องการของงานโครงการเด่นๆ ที่ประสบผลสำเร็จในหลายๆโครงการที่วางแผนกลยุทธ์ไว้  ทั้งงานด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน  ระบบสมาร์ทกริด  ระบบควบคุมอัตโนมัติและ IoT   เพื่อรองรับนโยบายการลงทุนเมกะโปรเจคต่างๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น โครงการ EEC  กลุ่มอุตสาหกรรมการบิน  กลุ่มโรงพยาบาล  กลุ่มโครงการมิกซ์ยูสและโครงการที่อยู่ในแผนงานอีกมากมาย  ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่ายังมีทิศทางการเติบโตที่ดีและได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับในครึ่งปีแรกของปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 1,322.90 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,337.14 ล้านบาท  ลดลง 14.24 ล้านบาท คิดเป็น 1.06%  กำไรสุทธิอยู่ที่ 105.70 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 124.03 ล้านบาท  ลดลง 18.32 ล้านบาท คิดเป็น 14.77% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน  จากสภาวะตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคา  ความผันผวนของเศรษฐกิจไทย  การชะลอการลงทุนภาคอุตสาหกรรม  อย่างไรก็ดีผู้บริหารของบริษัทฯได้ให้ความสำคัญและใส่ใจในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น  รวมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร  ต้นทุนทางการเงิน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

www.mitihoon.com