5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้น ภาคเช้า

301

อันดับที่ 1 SPRC ค่าการกลั่นยังสูงหนุนQ3กำไรดีต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รี ไฟน์นิ่ง หรือ SPRC ผู้ประกอบการโรงกลั่น โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า ว่า โรงกลั่นหยุดซ่อมนอกแผน 3 แห่งในประเทศอินเดีย บราซิล และเยอรมัน ทำให้ภาพรวมปริมาณการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกลดลงแต่ปริมาณความต้องการยังเท่าเดิม ซึ่งส่งผลให้ค่าการกลั่นอิงตลาดสิงคโปร์ในปัจจุบันอยู่ที่ 6.2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สูงกว่าไตรมาส2/61 ที่อยู่ในระดับ 6.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ในระดับ 74.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวนั้นจึงส่งผลดีต่อ SPRC ที่เป็นโรงกลั่นที่ใหญ่ในภูมิภาคเอเชียได้รับประโยชน์ทั้งเรื่องของมาร์จิ้น และค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดโดยจะเป็นปัจจัยหนุนกำไรในช่วงไตรมาส3/61 ของ SPRC จะออกมาดีกว่าไตรมาส2/61 เล็กน้อย ฝ่ายวิเคราะห์จึงแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 17 บาท

 อันดับที่ 2 MCS งัดกลยุทธ์ซื้อหุ้นคืน 27ล้านหุ้น เริ่ม  20 ก.ย.-20 ธ.ค.61  พร้อมเร่งหางานใหม่ต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า  นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า เปิดเผยว่า จากการประเมิน  บริษัทเอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MCS   พบว่ากำไรสุทธิปีนี้คาดจะอยู่ราว 445 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 242.62 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีหลังมองว่าบริษัทจะเร่งหางานใหม่เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อเสริมงานในมือ (backlog) ให้สูงขึ้นเพื่อรองรับผลการดำเนินงานช่วงปี 2562

ด้านแหล่งข่าวอุตสาหกรรม มองว่าราคาหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานยังมี EPS ที่ราว 0.99 บาทต่อหุ้น ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 10 บาท

อันดับที่ 3 GULF ตัดริบบิ้นโรงไฟฟ้า “กัลฟ์ บีแอล” เริ่มCODให้ กฟผ.  ปักธงทั้งปีขายไฟครบ  2,280 MW ตามเป้า

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า  บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF โดย นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่าโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ บีแอล ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังผลิตไฟฟ้า 126.8 เมกะวัตต์ กำลังผลิตไอน้ำติดตั้ง 10 ตัน/ชั่วโมง ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.61 ประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จำนวน 90 เมกะวัตต์ ระยะเวลา 25 ปี และมีสัญญาระยะยาวเพื่อจำหน่ายกำลังผลิตไฟฟ้าและไอน้ำส่วนที่เหลือให้ลูกค้าอุตสาหกรรม ขณะทื่ด้านแหล่งข่าวอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรสำหรับขยายการลงทุนใน สปป.ลาว พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดกำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ และพลังงานน้ำ ขนาดกำลังผลิต 1,000 เมกะวัตต์ คาดจะได้ข้อสรุปการลงทุนภายในปีนี้อย่างน้อย 1 โครงการ

อันดับที่ 4 SKE กางแผน5ปี รายได้พุ่งพันลบ. พร้อมมุ่งหน้าสู่ดัชนีSET 100  ผลิตไฟเพิ่มเป็น 30Mw พร้อมศึกษาโปรเจ็กต์ใหม่เพิ่ม

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น”  รายงานว่า บมจ. สากล เอนเนอยี หรือ SKE โดยนายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า  บริษัทฯตั้งเป้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาท ภายในระยะ 3-5ปีจากนี้ ตามธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้นได้ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งธุรกิจไฟฟ้า ยังสามารถจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้จำนวนมากขึ้นในทุกปีและยังมีบันทึกรายได้จากธุรกิจการผลิตและจำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) ตามโครงการ CBG Station ซึ่งจะหนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญ  นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าภายในระยะ 5 ปีจากนี้ จะถูกคัดเลือกให้เข้าคำนวณในดัชนี SET100 ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบัน และมีความสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยในช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทจะพัฒนาธุรกิจเพื่อให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น และจะผลักดันให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มเป็นระดับ 10,000 ล้านบาท

 อันดับที่ 5 VCOM เข้าฮุบกิจการ “ไอ-ซีเคียว” มูลค่า196ลบ.  พร้อมสานรายได้ทั้งปีแตะ 1.9พันลบ.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วินท์คอม เทคโนโลยี หรือ VCOM โดยนางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ   เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไอ-ซีเคียว จำกัด จำนวน 400,00 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็น 100% ของทุนชำระแล้ว เป็นมูลค่ารวม 196.50 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังให้ ไอ-ซีเคียว กู้ยืมเงิน จำนวน 19.80 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืม ทั้งนี้่บริษัทก็ยังได้เตรียมความพร้อมเพื่อที่จะเข้าประมูลงานใหม่ๆ ภายในประเทศที่จะออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะได้งานโครงการใหม่ๆ ออกมาค่อนข้างมาก จากการผลักดันนโยบายการลงทุนโครงการใหม่ของภาครัฐบาล ซึ่งจะปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เติบโตตามไปด้วยเช่นกัน และบริษัทมั่นใจรายได้ในปีนี้จะเติบโต 25-30% หรือทำได้ราว 1,900 ล้านบาท ส่วนงานต่างประเทศ ยังเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLM (กัมพูชา, สปป.ลาว และเมียนมา) เพื่อต่อยอดทางธุรกิจและรองรับการขายสินค้า ORACLE ให้กับลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLM เพื่อโอกาสการขยายการขายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะหาตลาดใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบภายหลัง