อันดับที่ 1 MVP ผลงาน Q3/61 โต 170% โกยเงินจากโมเดลธุรกิจใหม่ ขาย Samsung J8 ร่วมกับ BNK 48 กว่า 240 ลบ. คาดรายได้ทั้งปีพุ่ง 50%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอ็ม วิชั่น หรือ MVP โดย “นายโอภาส เฉิดพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/61 จะเติบโตโดดเด่น คาดรายได้จะสูงถึง 300 ล้านบาท หรือเติบโตเกิน 170% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จาก “โมเดลธุรกิจใหม่” ตัวแทนจำหน่าย Samsung J8 ร่วมกับ BNK 48 จำนวน 20,000 เครื่อง มูลค่า 240 ล้านบาท และการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นหนุนรายได้จาก Event Organizer อื่นๆเพิ่มเติมโดดเด่น
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาค่ายมืออีกนับ 10 ค่าย เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายร่วมกับ “พรีเซนเตอร์” อาทิ ค่ายมือถือ Vivo V9 ร่วมกับ GOT 7 เป็นต้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆนี้ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/61 จะเร่งตัวมากขึ้น เพราะ มีงาน Thailand Mobile Expo, งานกีฬา , ท่องเที่ยว และ คอนเสิร์ต ส่วนการท่องเที่ยวที่เริ่มขยายตัวยิ่งเป็นตัวแปรสำคัญทำให้บริษัทมีงานใหม่ๆเข้ามามากขึ้น
อันดับที่ 2 TRC ราคาหุ้นพุ่งกว่า 4.26% หลังคว้างานใหม่ 2 โครงการ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น หรือ TRC ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 4.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.3 ล้านบาท หลัง บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้รับแจ้งประกาศเป็นผู้ชนะการเสนอราคาจากกรุงเทพมหานคร 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,428.62 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ณ ระนอง มูลค่างาน 1,257.08 ล้านบาท ระยะเวลางาน 900 วัน วันที่คาดว่าจะลงนามในสัญญาภายในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2561และโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนสามวา มูลค่างาน 171.54 ล้านบาท ระยะเวลางาน 360 วัน วันที่คาดว่าจะลงนามในสัญญาภายในเดือนกันยายน 2561
อันดับที่ 3 PRM บวกกว่า 1.89% โบรกชี้เป้า 13.80 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พริมา มารีน หรือ PRM บวกกว่า 1.89% มูลค่าซื้อขาย 50.1 ล้านบาท โดยผู้บริหาร เผยว่า มองเห็นโอกาสเติบโตของกลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลว (เคมี) ภายในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตเพิ่มขึ้น หลังจากภาครัฐมีนโยบายผลักดันระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยดึงภาคเอกชนของไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้รับเรือใหม่เพิ่มอีก 1 ลำ โดยจะให้บริการได้ทันทีช่วงปลายไตรมาส 3/61 รองรับลูกค้าในเส้นทางต่างประเทศ และคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ 10-15% ของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งขนาดเล็ก
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เผยว่า ทิศทางกำไรไตรมาส 3/61 มีแนวโน้มเดินหน้าโตต่อเนื่องราว 250 ล้านบาท แม้บริษัทจะปรับแผนธุรกิจไปเน้นขนส่งทางอากาศ ทำให้มาร์จิ้นลดลง แต่ความเสี่ยงต่ำกว่าขนส่งทางเรือมาก ส่งผลให้รายได้เด่นชัดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ต้องปรับสมมติฐานล้อไปกับแผนธุรกิจใหม่นี้ แต่อัพไซด์ยังเหลือเพียงพอดังนั้นแนะนำให้ “ซื้อ” ราคาเหมาเป้าหมาย 13.80 บาท
อันดับที่ 4 SPVIยอดขายไอแพคทะลักบุ๊กดีลใหญ่สถาบันดันQ3พีค
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น “บมจ.เอส พี วี ไอ จำกัด หรือ SPVI” ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 4% นั้น โดย “นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/61 จะเติบโตโดดเด่น เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน รวมถึง iPad Pro และ Apple Watch สร้างยอดขายสูงมาก และล่าสุดพึ่งส่งมอบคอมพิวเตอร์ให้กับสถาบันการศึกษากว่า 100 เครื่อง
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างร่วมมือกับพันธมิตรจีน เพื่อพัฒนาและขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่าง “หุ่นยนต์สอน STEM” เพื่อรองรับการศึกษาในยุค Thailand 4.0 ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนขอใบอนุญาตินำเข้าหุ่นยนต์เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย คาดชัดเจนภายในปี 61 ล่าสุดสถาบันการศึกษากว่า 100 แห่ง ให้ความสนใจ โดยธุรกิจนี้ให้มาร์จิ้นสูง ดังนั้นจะหนุนผลงานให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
อันดับที่ 5 TOP รับ 2 เด้ง โรงกลั่น ตปท.ระเบิด-ปิโตรเคมีเด้ง กูรูเชียร์ “เก็งกำไร” เป้า 88 บ.
มิติหุ้น-นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เปิดเผยผ่านรายการ “ชี้ชัดลงทุน” ว่า จากกรณีเหตุการณ์ระเบิดโรงกลั่นในเยอรมัน ที่มีกำลังผลิตราว 120,000 บาร์เรลต่อวันต้องหยุดชะงัก ส่งผลระยะสั้นต่อการหด Supply แต่ Demand เท่าเดิม จึงทำให้ค่าการกลั่นดีดตัว ซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณแบบนี้มาแล้วรวม 3 ครั้ง คือที่โรงกลั่นในอินเดีย และโรงกลั่นในบราซิล ซึ่งมีกำลังการผลิต 415,000 บาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่าไตรมาส3/2561 ค่าการกลั่นเฉลี่ยน่าจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งหุ้นโรงกลั่นในไทยเด่นที่สุด ภายใต้คำแนะนำของฝ่ายวิจัยคือ TOP หรือ บมจ.ไทยออยล์
