ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.โกลเบล็ก โดยฝ่ายวิจัย แนะนำ “ซื้อ” สำหรับ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP โดยให้ราคาเหมาะสม 11.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 เพิ่มขึ้น 20% จากประมาณการณ์เดิม หลังจากรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 153 ล้านบาท เติบโต 43% จากไตรมาส 1/61 และ 38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับรายได้จากการขายไฟที่เพิ่มขึ้น 30%
สำหรับการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61 เพิ่มขึ้น 20% อยู่ที่ 556 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกปี 61 มีสัดส่วนเป็น 47% ของประมาณการกำไรทั้งปี และปรับกำไรปี 62 เพิ่มขึ้นจากเดิม 29% สู่ 691 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้รวมปี 61 อยู่ที่ 1,193 ล้านบาท เติบโต 36% จากงวดเดียวกันปีก่อน มาจากโครงการ Zouen 8 เมกะวัตต์ ที่ COD ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าโครงการอื่นๆจะสามารถทำได้ตามกำหนดการ ได้แก่ โครงการโซลาร์รูฟท็อป DoHome, โครงการโซลาร์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จ.ราชบุรี และคาดโครงการ Khunshight Kundi ขนาด 16.4 เมกะวัตต์ ประเทศมองโกเลียน่าจะสามารถ COD ได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/61 เร็วกว่ากำหนดการเดิมที่คาดไว้ในไตรมาส 1/62
ขณะที่คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 220 ล้านบาท เหลือ 160 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และไม่มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างหลังจากเปลี่ยนนโยบายบัญชี คาดอัตรากำไรสุทธิปี 61 ราว 47% จากที่ทำได้ 38% ในปี 60
ล่าสุด เข้าลงนามซื้อหุ้นของบริษัท TTQN ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 49.61 เมกะวัตต์ในเวียดนาม โดยคาดโครงการจะเริ่ม COD ได้ภายในไตรมาส 2/62 โดยรัฐบาลเวียดนามรับซื้อค่าไฟแบบ FiT (Feed-in-Tariff) 0.0935 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ เป็นระยะเวลา 20 ปี
ด้าน นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP เผยว่า บริษัทฯ ได้เริ่ม COD โครงการ ‘โซเอ็น’ (Solar Farm) ขนาด 8 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2561 ซึ่งเร็วกว่ากำหนด จากเดิมที่จะ COD ในช่วงไตรมาส 4/2561 โดยเมื่อนับรวมกำลังการผลิตจำนวน 3 เมกะวัตต์ ของโครงการ Do Home ที่เริ่ม COD ในช่วงต้นไตรมาสนี้ จะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตติดตั้งรวมอยู่ที่ 85 เมกะวัตต์ และบริษัทยังมีโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เตรียม COD ภายในปีนี้และต้นปีหน้าอีก 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้า อพศ. 5 เมกะวัตต์ และโครงการในมองโกเลีย 16.4 เมกะวัตต์ ซึ่งเมื่อทั้งสองโครงการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วจะทำให้กำลังการผลิตติดตั้งที่รับรู้รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 107 เมกะวัตต์
www.mitihoon.com