ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ซีพีแอล กรุ๊ป หรือ CPL โดยนายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดหวังปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากปีก่อนขาดทุน 103.21 ล้านบาท และครึ่งปีแรกของปีนี้ยังขาดทุนอยู่ 0.80 ล้านบาท
ส่วนรายได้คาดว่าจะเติบโตได้ 5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,379.40 ล้านบาท เนื่องจากวัฎจักรธุรกิจเริ่มทยอยกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะในธุรกิจฟอกหนัง ซึ่งบริษํทได้มีการปรับปรุงบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพ กระจายความเสี่ยงของธุรกิจ พยายามสร้างการเติบโตไป โดยเฉพาะการผลิตหนังหมูที่ตลาดมีความต้องการสูงขึ้น รวมถึงสินค้าเซฟตี้ที่ยังเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจผลิตหนังสำเร็จรูป (Finished Leather) 67% ธุรกิจฟอกหนัง (Tanning) 5%แบ่งเป็นหนังวัว และหนังหมู และการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์นิรภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้ โปรดักส์) 28% ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ซึ่งแบ่งเป็นการผลิตและจำหน่ายรองเท้านิรภัย และการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยอื่นๆ โดยบริษัทจะพยายามเพิ่มสัดส่วนรายได้ในธุรกิจฟอกหนังให้มากขึ้น เพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง และมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดี
พร้อมกันนี้ บริษัทได้รับงานจากแบรนด์รองเท้าพูม่า (PUMA) ในการผลิตหนังสำเร็จรูปให้ ขณะเดียวกัน ยังได้ออเดอร์ผลิตหนังสำหรับกระเป๋าแบรนด์ไมเคิล คอรส์ (Michael Kors) สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการใช้หนังในอุตสาหกรรมแฟชั่นยังมีอีกมาก ปัจจุบันบริษัทได้รับงานแบรนด์ใหญ่ เช่น Vans, Adidas, Sketcher และ Timberland ด้วย
อีกทั้งยังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการให้อนุมัติเงินลงทุน 120-150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตระยะกลางถึงยาว โดยธุรกิจหนังสำเร็จรูปปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน ซึ่งตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3.5-4.0 ตารางฟุตต่อเดือน ธุรกิจฟอกหนัง (Tanning) ในส่วนของหนังวัว กำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 60,000 ตัวต่อเดือน โดยกำลังการผลิตเป้าหมายอยู่ที่ 80,000 ตัวต่อเดือน ก่อนจะเพิ่มเป็น 120,000 ตัวต่อเดือน ส่วนหนังหมู มีกำลังการผลิต 70,000 ตัวต่อเดือน จะเพิ่มเป็น 90,000 ตัวต่อเดือน
www.mitihoon.com