กลุ่มพาณิชย์ – การบริโภคในต่างจังหวัดเร่งตัวขึ้น มอง ROBINS ได้ประโยชน์สูงสุด

111

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีได้มีการศึกษาตัวเลขทางเศรษฐกิจพบว่าการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 1H18 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำ (ช่วงไว้ทุกข์ประเทศ) และรายได้นอกภาคเกษตรที่ดีขึ้นจากภาคส่งออกและท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวดีขึ้นยังไม่ได้กระจายตัวมากนัก เพราะในพื้นที่ต่างจังหวัดยังได้อานิสงส์น้อย ในขณะที่รายได้ภาคเกษตรก็ยังอ่อนแออยู่ สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของธุรกิจค้าปลีกส่วนใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา โดยร้านค้าในกรุงเทพและเมืองใหญ่มีผลการดำเนินงานดีกว่าสาขาในต่างจังหวัด เราคาดว่ารายได้นอกภาคเกษตรจะดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H19 เนื่องจากทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยวยังคงแข็งแกร่ง แต่อาจจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงหลัง 1Q19 เนื่องจากผลจากฐานที่สูงซึ่งเกิดจากการขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำในเดือนเมษายน

เรามองว่าการบริโภคในต่างจังหวัดน่าจะฟื้นตัวได้ตามรายได้ภาคเกษตรที่สูงขึ้นจากการที่ผลผลิตและราคาขายพืชผลหลักขยับสูงขึ้น และมาตรการช่วยเหลือทางการคลัง 2 แสนล้านบาทซึ่งตั้งเป้าไปที่ต่างจังหวัด จะช่วยหนุนการจับจ่ายใช้สอยในต่างจังหวัดจาก 4Q18 เป็นต้นไป ทั้งนี้ รัฐบาลไทยอาจจะเร่งมาตรการเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อก่อนเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งใน 1H19 สอดคล้องกับมุมมองของฝ่ายวิจัยของกรุงศรีฯ ที่คาดว่ารายได้ภาคเกษตรจะเติบโตต่อเนื่องในระดับปานกลางไปจนถึง 1Q19 เป็นอย่างน้อย โดยฝ่ายวิจัยของกรุงศรีฯ เพิ่มปรับเพิ่มประมาณการการบริโภคภาคเอกชนปี 2018-19 ขึ้นอีก 30bps เป็น 4.1%/3.7%

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีมีมุมมองที่เป็นบวกกับการบริโภคในต่างจังหวัด โดยเราคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายในสาขาเดิม หรือ SSSG% ของกลุ่มการพาณิชย์จะยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 2.0-3.0% ในปี FY19F ตามการเติบโตของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีสหสัมพันธ์เชิงบวกต่อกัน เรามองว่าธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งเน้นไปที่สินค้าไม่คงทน หรือกึ่งคงทน และมีสัดส่วนธุรกิจอยู่ในต่างจังหวัดในระดับสูงจะได้อานิสงส์มากที่สุด โดยเราคาดว่ากำไรของกลุ่มจะโต 13% ในปี FY19F สูงกว่า EPS ของ SET ที่คาดว่าจะโต 10% เรามองว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้ยังน่าสนใจโดยคิดเป็น P/E ปี FY19F ที่ 25x เท่ากับค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง -1.0 S.D.

เราได้มีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มพาณิชย์จาก เท่าตลาด (NEUTRAL) เป็นให้น้ำหนักมากกว่าตลาดหรือ OVERWEIGHT โดย เรามองว่า ROBINS จะได้อานิสงส์มากที่สุดจากการบริโภคในต่างจังหวัดที่เร่งตัวขึ้น โดยเราชอบ ROBINS เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคที่ดูสดใสในต่างจังหวัด, กำไรที่ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งจากรายได้ค่าเช่า และราคาหุ้นที่ถูก (คิดเป็น P/E ปี FY19F ที่ 21.7x เท่ากับค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง -1.0 S.D.)

นอกจากนี้ เรายังชอบ CPALL เพราะราคาหุ้นปรับลดลงมาแล้ว 16% ในรอบสองเดือนที่ผ่านมาซึ่งสะท้อนถึงกำไรระยะกลางที่ถูกฉุดโดยการขยายธุรกิจในต่างประเทศผ่าน MAKRO ในบรรดาหุ้นกลุ่มนี้ เราชอบ HMPRO น้อยกว่าตัวอื่นเพราะธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ในขณะที่ราคาหุ้นก็ถือว่าแพง

โดยคอลัมน์กรุงศรีทอล์ก (บล.กรุงศรี)